ธ.ก.ส. จัดแคมเปญ “เงินออมมั่งมี Chinese New Year ปี 2564”
ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ทำการเปิด เงินออมมั่งมี Chinese New Year ปี 2564 สำหรับผู้ที่เปิดบัญชีใหม่ หรือฝากเงินเพิ่ม 2 หมื่นบาท
ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร จัดแคมเปญ “เงินออมมั่งมี Chinese New Year ปี 2564” เมื่อเปิดบัญชีใหม่หรือฝากเงินเพิ่ม 20,000 บาทขึ้นไป คงยอดไว้ในบัญชี 4 เดือน รับทันทีกระปุกออมทรัพย์ “สิงโตรับทรัพย์” ซึ่งบรรจุเงินหยวนเป่า สัญลักษณ์แห่งความร่ำรวย เสริมความเป็นสิริมงคลในเทศกาลตรุษจีน
เริ่มรับฝากตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม 2564 พร้อมเพิ่มความสะดวก ไม่ต้องรอคิวนาน ด้วยบริการระบบคิวออนไลน์ (A-Queue) เลือกวันเวลาและสาขาที่ต้องการใช้บริการได้ด้วยตัวท่านเอง
นายสุรชัย รัศมี รองผู้จัดการ รักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ทางธนาคารได้จัดแคมเปญ “เงินออมมั่งมี Chinese New Year ปี 2564” เพื่อส่งความสุข ความปรารถนาดีและความเป็นสิริมงคล เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ปี 2564 ให้แก่ผู้ฝากเงินกับธนาคาร
โดยจะได้รับกระปุกออมทรัพย์ “สิงโตรับทรัพย์” ซึ่งมีลักษณะเป็นหุ่นเชิดสิงโตเกาะถุงแดงที่บรรจุเงิน หยวนเป่าหรือเงินตำลึงจีนที่ล้นออกมาจากถุง เสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวยและความเป็นสิริมงคล เป้าหมายรับฝาก 500 ล้านบาท โดยเปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม 2564 หรือจนกว่าของที่ระลึกจะหมด
สำหรับเงื่อนไขการรับฝาก เปิดบัญชีใหม่หรือฝากเงินเพิ่ม 20,000 บาทขึ้นไป ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ใช้สมุด เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค เงินฝากออมทรัพย์ A-Savings หรือบัญชีเงินฝากรักษาทรัพย์ คงยอดเงินฝากในบัญชี 4 เดือน จะได้รับกระปุกออมทรัพย์ ธ.ก.ส.“สิงโตรับทรัพย์” จำนวน 1 กระปุก จำกัดสิทธิ์ 1 บัญชี ต่อ 1 กระปุก ณ ธ.ก.ส. สาขาที่ร่วมแคมเปญ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ลดระยะเวลารอคอยของลูกค้าในการทำธุรกรรม และลดความแออัดของผู้มาใช้บริการที่สาขา ธ.ก.ส. ได้เปิดให้บริการ ระบบคิวออนไลน์ (A-Queue) ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกวัน เวลา และสาขาที่ต้องการใช้บริการได้เอง ผ่านทางเว็บไซต์ : www.baac.or.th โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสอบถามสาขาที่ร่วมกิจกรรมได้ที่ Call Center 02 555 0555
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน