น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ 18-20 ธ.ค. เป็นข่าวปลอม
กรมอุตุฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงข่าวที่ว่าจะมี น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ตอนกลาง ตอนล่าง ระลอก 2 วันที่ 18-20 ธ.ค. 63 ไม่เป็นความจริง
ตามที่มีการส่งต่อในสื่อต่าง ๆ ถึงประเด็นเรื่อง น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ตอนกลาง ตอนล่าง ระลอก 2 วันที่ 18-20 ธ.ค. 63 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จโดยกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีเตือนภัยภาคใต้รับพายุระลอกที่ 2 โดยระบุว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 18-20 ธ.ค. ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ในช่วงวันที่ 15-20 ธ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาว ถึงหนาวจัด สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทั้งนี้ ในวันที่ 15-20 ธ.ค. 63 มวลอากาศเย็นยังแผ่ปกคลุมอย่างต่อเนื่อง ส่วนพายุ ที่ว่าจะก่อตัวอาจจะแรงขึ้น แต่คาดว่าจะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย แต่ยังต้องติดตามเพราะเป็นการพยากรณ์ปลายช่วงฝนที่ยังจะเกิดขึ้นเป็นไปตามฤดูกาล ตามมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือโทรสายด่วน 1182
บทสรุปของเรื่องนี้ : ในช่วงวันที่ 15-20 ธ.ค. 63 มวลอากาศเย็นยังแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศา ส่วนพายุที่ว่าจะก่อตัวอาจจะแรงขึ้น แต่คาดว่าจะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่มา: ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย
- เฟคนิวส์! กองสลากฯ ยืนยัน พนักงานไม่รู้ เลขรางวัลล่วงหน้า
- เฟคนิวส์! หมอแล็บยืนยัน สภากาชาด ไม่ขายเลือดผู้บริจาค
- ข่าวปลอม! ไข้หัดแมว ติดต่อจากสัตว์สู่คนได้
- โควิด-19 ไทย18 ธ.ค. 63 พบผู้ป่วยเพิ่ม 16 ราย พบผู้ป่วยในประเทศ 1 ราย