พบ โควิดสิงห์บุรี ติดเชื้อ 1 ราย นั่งเครื่องบินลำเดียวกับผู้ป่วยก่อนหน้า
พบ โควิดสิงห์บุรี ติดเชื้อ 1 ราย นั่งเครื่องบินลำเดียวกับผู้ป่วยก่อนหน้า
จากกรณีที่โลกออนไลน์ และเพจสื่อออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่สิงห์บุรี 1 ราย เป็นหญิงวัย 51 ปี โดยระบุไทม์ไลน์ไว้ในโลกออนไลน์ไว้ดังนี้
25 พฤศจิกายน 2563 เวลา 17.00 น. เดินทางถึง จังหวัดเชียงราย และได้เดินทางต่อไปยังโรงงานเล้งเฮง ที่อำเภอเวียงปาเป้า
26 พฤศจิกายน 2563 รับคณะดูงาน ที่โรงงานเล้งเฮง
เวลา 15.00 น. เดินทางไป สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย (อยู่ที่งานจนถึงเวลา 19.00 น.)
เวลา 20.00 น. เดินทางกลับถึงที่พัก
27 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. เดินทางถึงสนามบินเชียงราย โดยรถตู้ของโรงงาน และขึ้นที่เที่ยวบิน DD8717 สายการบินนกแอร์
เวลา 15.15 น. เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง และมีรถตู้ของโรงงานมารับกลับโรงงานที่ อำเภอแสวงหา จ.อ่างทอง (ระหว่างทางแวะรับประทานอาหารที่ร้าน บิ๊กบะหมี่)
29 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.00 น. เดินทางไปซื้อกับข้าวที่ตลาดท่าข้าม (อยู่ถึงเวลา 16.00 น.)
30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่ โรงพยาบาลอินทร์บุรี โดยรถตู้
1-2 ธันวาคม 2563 อยู่บ้าน โดย วันที่ 2 ธันวาคม เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย คิดว่าผลมาจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
3 ธันวาคม 2563 เวลา 10.00 น. ทราบ ไทม์ไลน์ สายการบิน ผู้ป่วย โควิด -19 เดินทางขอรับการเดินทางที่โรงพยาบาลบางระจัน
ล่าสุดวันนี้ มีรายงานความคืบหน้าแล้วว่าผู้ป่วยโควิด-19สิงห์บุรี เป็นเรื่องจริง
โดย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ติดเชื้อ เดินทางมาจากจังหวัดเชียงราย ไปการไปสิงห์ปาร์ค เดินทางด้วยเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมรวมทั้งการประเมินดูว่ามีโอกาสได้รับเชื้อที่ใด ระหว่างตั้งแต่อยู่ที่เชียงราย ระหว่างเดินทาง ดังนั้นรายนี้ข้อมูลยังไม่ครบถ้วนอยู่ระหว่างการรวบรวมเพื่อนำมาชี้แจงต่อไป
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเพิ่มอีก 2 รายติดเชื้อ หลังเดินทางมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาซึ่งอยู่ในสถานที่กักกันที่ทางวัดจัดให้ ดังนั้นข้อมูลจะมีการเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากมีการเดินทางกลับตลอดเวลา
ทั้งนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวที่สิงห์บุรี ระบุว่าไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ หากเป็นจริงก็จะนับว่าเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ ย้ำอีกทีว่า ต้องรอการสอบสวนโรคที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
อ้างอิงจาก: nationtv.tv prachachat.net dailynews.co.th