ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น การเดินทางระหว่างประเทศนั้น จำเป็นต้องใช้ผลตรวจโควิด-19 ในการเดินทาง และจากมาตรการดังกล่าว ทำให้เหล่ามิจฉาชีพฉวยโอกาสสร้างรายได้
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สำนักข่าว นิวยอร์ก โพสต์ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศฝรั่งเศสได้เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย 7 คนที่อาจเกี่ยวข้องกับการผลิต ผลตรวจโควิด-19 ปลอม ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าทีตำรวจเปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุคิดค่าบริการในการผลิตผลตรวจปลอมราวๆ 10,000 บาท
โดยขณะนี้ผู้ต้องสงสัยไม่ทราบชื่อทั้งหมดถูกควบคุมตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ อาจจำต้องจำคุกเป็นระยะเวลา 5 ปี หากถูกตัดสินว่าผิดจริง
นอกจากประเทศฝรั่งเศสแล้ว ยังมีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิลได้จับกุมนักท่องเที่ยว 4 คนที่ใช้ผลตรวจปลอมในการเดินทางเข้าไปยังเกาะท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยแน่ชัดว่า นักท่องเที่ยวผลิตผลตรวจปลอมขึ้นมาเอง หรือ ซื้อมาจากที่อื่น
ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ในประเทศอังกฤษก็มีรายงานเกี่ยวกับ ผลตรวจปลอม เช่นเดียวกัน โดยชายคนหนึ่งเล่าว่าเขาได้ใช้ผลตรวจปลอมของเพื่อนในการเดินทางไปยังประเทศปากีสถาน โดยเขานำผลตรวจของเพื่อนเขาและเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อตัวเอง
ซึ่งสาเหตุที่เขาต้องลงทุนทำขนาดนี้ เพราะ เขามีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปปากีสถาน แต่เขาไม่ใช่คนงานจำเป็น ทำให้เขาไม่สามารถเข้าประเทศได้
โดยนักเดินทางอีกคนที่ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อังกฤษเดียวกันก็เล่าว่า คนหนึ่งในครอบครัวของเขาคนหนึ่งจำเป็นต้องเดินทาง และต้องใช้ผลตรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้กล่าวกับเขาว่า เขาสามารถตรวจหาเชื้อให้ได้ และสามารถเปลี่ยนจากผลตรวจที่เป็นบวก ให้กลายเป็นลบได้ในราคาราว 2,000 บาท
เจ้าหน้าที่ทั่วโลกต่างยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ผลปลอมเล็ดลอดไปได้ และส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นซ้ำ
โควิด-19 12 พ.ย. ยอดป่วยทั่วโลกมากกว่า 52 ล้านราย
