รัฐบาลไทย ปลื้ม แรงงานไทย เป็นที่ต้องการของต่างชาติ เพราะคุม Covid-19 ได้ดี
โฆษก เผย รัฐบาลไทย ปลื้มใจที่แรงงานไทย สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ เนื่องด้วยผลงานที่ดีในการจัดการควบคุม Covid-19 ทำให้เป็นที่ต้องการของต่างชาติ
จากการประชุม ครม. ครั้งล่าสุดนั้น นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงรายงานการประชุมในประเด็นของแรงงานส่งออกที่ได้ไปทำงานเก็บผลไม้ในประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ ในช่วงฤดูกาล 2020 ที่เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฏาคม ถึงกันยายน 2563 โดยมีแรงงานที่ได้รับการอนุญาตไปทั้งสิ้น 5,654 คน แยกเป็นทำงานในประเทศฟินแลนด์ 2,014 คน และในสวีเดน 3,210 คน
ซึ่งแรงงานที่ไปเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดรายได้กลับมาขั้นต่ำโดยประมาณอยู่ที่ 618,341,720 บาท แบ่งตามประเทศก็คือในฟินแลนด์จำนวน 182,655,000 บาท และสวีเดนจำนวน 435,686,720 บาท โดยในการเดินทางไปนั้นก็อยู่ในมาตราการจัดการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทางกรมจัดหาแรงงานได้วางเอาไว้ ซึ่งแรงงานทั้งหมดได้กลับมายังประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1-22 ตุลาคม 2563 และได้รับการกักกันตัวที่มีการดูแลโดยภาครัฐ
ทั้งนี้รายได้ของแรงงานก็แบ่งไปตามระยะเวลาในการทำงาน โดยคนที่ทำงานในช่วงเวลา 2 เดือน รายได้จะอยู่ที่ 150,000 – 180,000 บาท ส่วนคนที่ไปในช่วงระยะเวลา 55 วันนั้นรายได้จะอยู่ที่ 90,000 – 150,000 บาท ซึ่งรายได้ก็ผ่านการหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เรียบร้อย และค่าใช้จ่ายในการกักตัวนั้นเป็นการจ่ายโดยตัวบริษัทนายจ้าง และถ้ามีส่วนต่างเหลือก็จะนำกลับคืนไปให้แก่แรงงานตัวแรงงาน
นายอนุชา กล่าวว่า “แรงงานไทยเป็นที่ต้องการของต่างประเทศเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ซึ่งส่วนสำคัญมาจากการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีของไทย ทำให้ประเทศที่ต้องการนำเข้าแรงงานมีความมั่นใจแรงงานจากไทยเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเพิ่มช่องทางให้แรงงานไทยได้มีตลาดทำงานในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้แรงงานไทยมีอาชีพ มีรายได้ ลดปัญหาการว่างงานภายในประเทศไทย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำเงินกลับเข้าประเทศไทย ซึ่งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของแรงงานไทย สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก”