เมียไม่เผาศพ ผัวผูกคอดับ ถูกเชือดเจ้าโลก คาดฝีมือแก๊งเงินกู้นอกระบบ
จากกรณีที่นายยอดชาย แสนสงค์ หนุ่มใหญ่วัย 46 ปี ซึ่งผูกคอตัวเองเสียชีวิตในบ้านพักเลขที่ 166 ม.16 บ้านเหมือดแอ่ สภาพถูกของมีคมเชือดเจ้าโลก ลูกอัณฑะเลือดท่วม ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงกีฬาขาสั้นสีฟ้า มีเชือกลูกเสือสีแดงมัดที่คอกับโยงขื่อในห้องนอน เท้ายืนอยู่ที่พื้นห้อง งอเข่า มีเลือดไหลอาบช่วงล่าง เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างรอผลนิติเวช ถึงสาเหตุการเสียชีวิต
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ค. 2563) ที่วัดสว่างมนาวาส บ้านเหมือดแอ่ ม.7 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น สถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพผู้ตาย นางยุพิน พรมกัน อายุ 41 ปี ภรรยาผู้ตายเปิดเผยว่า สามีเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไม่เคยพูดจาผิดหูใคร รับจ้างทำงานก่อสร้างเลี้ยงครอบครัวมาตลอด ในวันที่สามีเสียชีวิต ตนไม่อยู่บ้าน เพราะหนีเจ้าหนี้ไปที่จ.บึงกาฬ
โดยกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบมาใช้เอง รวมทั้งหมด 10,000 บาท และกู้ให้เพื่อน 2 คน 70,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 80,000 บาท ต้องส่งคืนนายทุนเป็นรายวัน วันละ 4,000 บาท แรกๆ มีเงินจ่ายหนี้ เพราะรับจ้างตัดอ้อย ส่วนสามีก็รับจ้างทำงานก่อสร้างมาตลอด แต่ช่วงโควิด-19 ไม่มีงาน จึงไม่ค่อยมีเงินจ่ายดอกเบี้ย และเงินกู้นอกระบบรายวัน ส่วนเพื่อน 2 คนเมื่อกู้เงินได้ ก็ไม่จ่ายและหลบหนีไป จึงต้องหาเงินมาจ่ายนายทุนเอง เมื่อไม่มีเงิน จึงไปยืมเงินเพื่อนที่จ.บึงกาฬ
โดยได้บอกสามีและลูกว่า จะไปเที่ยวและเยี่ยมเพื่อน ไม่ได้บอกว่าไปยืมเงิน สามีก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนลูกชาย 2 คน ก็กำลังเรียน คนโตเรียน ปวช.ปี 1 คนที่ 2 เรียนชั้น ป.1 เมื่อถึงบึงกาฬ จึงโทรศัพท์หาลูกชายคนเล็กทราบว่า เล่นอยู่บ้านเพื่อน ไม่ห่างจากบ้านตัวเอง จึงให้ลูกชายถือโทรศัพท์กลับบ้านเพื่อจะคุยกับสามี แต่เมื่อลูกชายกลับถึงบ้านก็เข้าห้องนอนพ่อไม่ได้ เพราะถูกล็อกลูกบิด จึงไปเรียกพี่ชายที่บ้านเพื่อน พี่ชายมาก็เข้าห้องนอนตัวเอง ปีนผนังห้องข้ามไปยังห้องพ่อ เพื่อปลดล็อกลูกบิด ปรากฏว่าพบพ่อผูกคอตาย จึงให้น้องชายไปบอกญาติพี่น้อง เมื่อมาดูศพ พบว่าไม่ใช่การผูกคอตาย น่าจะเป็นการถูกฆ่า เนื่องจากปลายเท้ายังอยู่ที่พื้น และมีเลือดไหลออกจากร่างกาย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเรือ มาตรวจที่เกิดเหตุ และชันสูตรศพสามี
เมื่อฟังรายละเอียดจากคำบอกเล่าจากลูกชาย ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน ทราบว่าสามีถูกของมีคมเฉือนที่อวัยวะเพศและลูกอัณฑะ เป็นเหตุให้เลือดไหลมาที่ขา และมีรอยเขียวช้ำ รอยถลอกที่เอว ที่ขาและลำตัว ทุกคนเชื่อว่าถูกคนร้ายลักลอบเข้ามาในบ้านแล้วลงมือฆ่า จึงประสานขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวให้มาตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับครอบครัว ตำรวจ สภ.หนองเรือ บอกว่า เรื่องนี้ไม่ต้องให้นักข่าวรู้เรื่อง จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเรือ ช่วยสืบสวนสอบสวนหาตัวคนที่ลงมือทำร้ายและฆ่าสามี มาดำเนินการตามกฎหมายด้วย เพราะไม่เช่นนั้นครอบครัวจะยังไม่เผาศพสามี จนกว่าผลพิสูจน์ของแพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จะออก
ทางด้าน นายประดิษฐ์ เพียรักษา อายุ 58 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตาย เป็นคนที่เห็นสภาพศพ เผยว่า การตายของนายยอดชายคนลงมือทำทุกอย่างเสมือนการเชือดไก่ให้ลิงดู เพราะเท่าที่ได้ยินเพื่อนบ้านพูดเล่าต่อกัน ทราบว่า ก่อนที่นายยอดชายจะเสียชีวิต ภรรยาก็หนีไปต่างจังหวัด ลูกชาย 2 คนก็เล่นกับเพื่อนๆ มีคนเห็นชายฉกรรจ์ขับรถยนต์ มีทั้งรถฟอร์จูนเนอร์ และรถกระบะแต่งซิ่ง มาเรียกหานางยุพินเพื่อจะเก็บหนี้เงินกู้นอกระบบ ซึ่งนางยุพินไม่อยู่ มีเพียงนายยอดชาย สามีอยู่ที่บ้าน ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกันหรือไม่ เพราะการผูกคอตายในลักษณะนี้ไม่น่าเป็นไปได้ ชาวบ้านจึงพากันติดใจสงสัยการตาย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมคนร้ายที่ลงมือฆ่า มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วน นางนวพร วงศ์กอง อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเหมือดแอ่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่พบศพนายยอดชาย ตัวเองไม่เห็นศพ เพราะไปทำธุระที่ต่างจังหวัด และกลับเข้ามาในหมู่บ้านประมาณ 4 ทุ่มของคืนวันที่ 5 ก.ค. จึงเดินทางไปที่บ้านผู้ตาย พบเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านพูดถึงการผูกคอตายที่น่าสงสัยหลายอย่าง โดยส่วนตัวตั้งแต่เล็กจนโต รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี ผู้ตายทำแต่งาน ไม่เคยพูดหรือทำให้ชาวบ้าน ญาติพี่น้อง เสียใจ มีภรรยาก็รักครอบครัว ทำงานรับจ้างเลี้ยงครอบครัวมาตลอด เมื่อเสียชีวิตในลักษณะนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมกับคนตายและครอบครัว จึงต้องการให้ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวน หาตัวคนที่ลงมือทำร้ายและฆ่าผู้ตาย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่มา: ไทยรัฐ
