ผลตรวจดีเอ็นเอ คดีน้องชมพู่ออกแล้ว
ผลตรวจดีเอ็นเอ คดีน้องชมพู่ออกแล้ว
จากกรณีที่ น้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ หายตัวไปจากบ้านพักเลขที่ จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 หลังจากค้นหานาน 4 วัน วันที่ 14 พฤษภาคม ก็ได้พบศพน้องชมพู่ในป่าเทือกเขาภูพานน้อย เบื้องต้นพบว่าน้องชมพู่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต และผลชันสูตรรอบ 2 จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่าพบร่องรอยถูกทำร้าย บาดแผลที่อวัยวะเพศ และพบหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุเป็นเบาะแส
ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. มีรายงานว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอบุคคลต้องสงสัยกับหลักฐานบางอย่าง ผลออกมาแล้ว แต่ตร.ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งหลักฐานที่นำไปตรวจเป็นเส้นผม หรือขนบางอย่าง ตกอยู่ใกล้ศพน้องชมพู่ ไม่แน่ชัดว่าผลการตรวจดีเอ็นเอนี้ จะนำไปสู่การออกหมายจับได้หรือไม่
ด้านลุงพลผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย กล่าวว่า หากมีหมายจับออกมาจริง และเป็นตนเอง ก็ต้องดูว่าหมายจับนั้นนำมาจากหลักฐานอะไร ต้องมีรายละเอียด เพราะช่วงระหว่างที่ตนพบศพน้องชมพู่นั้น มีการถอดหมวก มีเหงื่อเยอะมาก อาจจะกระเด็นโดนศพ และไม่ใช่แค่เหงื่อตนคนเดียว มีชาวบ้านคนอื่นๆ อีก
ตนยังได้นำเสื้อผ้าน้องชมพู่ที่พ่อแม่เตรียมไปให้ ไม่แน่ใจว่าหยิบเสื้อผ้าทีละชุด หรือยื่นทั้งกระเป๋า อาจจะมีลายนิ้วมือตน หรือดีเอ็นเอปะปนไปได้ รวมทั้งกระเป๋าเป้ที่ใช้ขึ้นเขาของตน ตำรวจก็เอาไปตรวจสอบ และพบรอยดิน คล้ายกับที่พบอยู่ที่รอยเท้าน้องชมพู่ ก็อาจจะสงสัยอีก เพราะดินที่เห็นเป็นดินที่ติดมาจากขวดน้ำที่นำไปดื่มเวลาขึ้นภูเหล็กไฟ
ส่วนการตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมตอนที่เจอรองเท้าน้อง ลุงพลกลับเตรียมเสื้อผ้าน้องไปด้วย ทำไมถึงรู้ว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ลุงพลบอกว่า ตนไม่ได้เป็นคนเตรียมเสื้อผ้าน้องชมพู่ไป แต่เป็นพ่อของน้อง เพราะคุณหมอที่สนิทแนะนำว่าให้นำเสื้อผ้า อาหารน้ำดื่ม เตรียมไปให้น้องด้วย และยังบอกวิธีการดูแล เพราะทุกคนเชื่อว่า ตอนนั้นน้องชมพู่ยังมีชีวิตอยู่
ตนอยู่ในเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง มีความสงสัยหลายประเด็น แต่เก็บไว้ในใจ เคยคิดว่าเป็นไปได้หรือว่าหลงป่า เพราะเคยมีเด็กหลงป่าอยู่ในนั้นถึง 7 วัน แต่ไม่ได้เสียชีวิต มันก็ทำให้คิดได้ถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นแค่การสันนิษฐาน ขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายได้โดยเร็ว
ที่มา: ข่าวสด