ข่าวภูมิภาค

สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศผ่อนปรนละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด

สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศผ่อนปรนละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด และการทํากิจกรรมบางอย่าง (ฉบับที่ 7/2563)

ด้วยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ซึ่งมีผลมาจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ โดยความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพของประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งของ พี่น้องมุสลิมในทุกพื้นที่ในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของจุฬาราชมนตรี และตามที่นายกรัฐมนตรี ได้ออกข้อกําหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เพื่อผ่อนคลายให้ดําเนินการหรือ ทํากิจกรรมบางอย่างได้ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนดนั้น

Advertisements

จึงพิจารณาเห็นควรผ่อนปรนให้มีการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์สําหรับมัสยิด ที่มีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการที่กําหนด ดังนี้

  • 1. ให้คณะกรรมการอิสลามประจํามัสยิดที่มีความประสงค์จะปฏิบัติศาสนกิจละหมาด ญะมาอะห์ แจ้งคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดในการปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรี และ มาตรการของคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัด ตลอดจนมาตรการหรือคําแนะนําของทางราชการ เกี่ยวกับการป้องกันโรค
  • 2. สําหรับมัสยิด
    • 2.1 ให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิดทุกครั้ง
    • 2.2 จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด
    • 2.3 งดใช้บ่อน้ํา (กอเลาะห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน
    • 2.4 ทําความสะอาดมัสยิด โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสเป็นจํานวนมาก อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง และไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
    • 2.5 จัดทําเครื่องหมายจุดละหมาดที่สามารถระบุตําแหน่งได้ โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างแต่ละจุด 1.50 – 2 เมตร
    • 2.6 ควบคุมทางเข้า – ออกมัสยิด และจัดระเบียบระยะห่างขณะเดินเข้า และเดินออกจากมัสยิดหลังเสร็จสิ้นการละหมาดญะมาอะห์
    • 2.7 ให้มัสยิดจัดเตรียมแบบบันทึกให้ผู้มาร่วมละหมาดญะมาอะห์บันทึกชื่อ – นามสกุล พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อความสะดวกในการติดตาม กรณีที่มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น
    • 2.8 ให้เปิดมัสยิดก่อนเวลาละหมาด ๑๕ นาที และปิดหลังจากละหมาดเสร็จ 15 นาที
    • 2.9 ให้มุอัซซิน (บิหลั่น) อะซานด้วยสํานวนการอะซานตามปกติ โดยไม่ต้องมีสํานวน สําหรับมัสยิดที่จัดให้มีการละหมาดญะมาอะห์
  • 3. สําหรับผู้เข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์
    • 3.1 อาบน้ําละหมาดจากที่บ้าน
    • 3.2 ใช้ผ้าปูละหมาด (ผ้าซะญาดะห์) ส่วนตัว โดยนํามาจากบ้าน
    • 3.3 สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ
    • 3.4 งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือพร้อมกล่าวสลามเท่านั้น
    • 3.5 หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ํามูก แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดการไปร่วมละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด
    • 3.6 เว้นระยะห่างระหว่างแถวและในแถว 1.50 – 2 เมตร และให้ยืนตามจุดที่มัสยิดได้จัดทําเครื่องหมายไว้ ๓.๗ ผู้มาร่วมละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิดต้องบันทึกชื่อ – นามสกุลพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ลงในแบบบันทึกที่มัสยิดจัดเตรียมไว้ทุกครั้ง
  • 4. การละหมาดญะนาซะห์และการทํากิจกรรมบางอย่าง
    • 4.1 การละหมาดญะนาซะห์ให้ใช้มาตรการเดียวกับการละหมาดญะมาอะห์
    • 4.2 กรณีที่จําเป็นต้องรวมกันเป็นกลุ่ม เช่น การทําพิธีนิกะห์ ควรจํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมไม่เกิน 50 คน พร้อมกับต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน การติดเชื้อดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขอให้พี่น้องมุสลิมได้ขอดุอากหนูตนาซิละห์ในทุกเวลาละหมาดญะมาอะห์ จึงใคร่ขอความร่วมมือ มายังคณะกรรมการอิสลามประจํามัสยิดได้ดําเนินการภายใต้การกํากับดูแลของคณะกรรมการอิสลาม ประจําจังหวัด และให้ถือปฏิบัติจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติหรือจะมีการประกาศ เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

https://www.facebook.com/samnakjula/posts/3846709405400548?__xts__%5B0%5D=68.ARACCTi3oAfrbu6stEWyXpYyMP432FuTmf6C_rOgBYQ4yCPZglTtO56FazOuPe4VIrfpPkdQWeR2jwkK7nHIoRApDthl1a8Txo4EvlgFgcLwO7Myl39H-I-ALDzHgsavddSJPI4G8fGH9Q72_k1OLLxAUHwtA9JM6tBF93mFBgeyc-YzKUw2AcLMVw1v9Y52QyR3AikBuHt2I40v9N1kd-lvOmLRd3K1QAaqcAiaB2cE7RucraJ30o7dRqREs-Pd5qB0q7GyEVcWip4J9to5XQ9-lS9dRN9BcdBbRZHwOeHPlm4xvBXDmrFo29zvSZQHN3m0w0Lna-FfeVMQJuhj_195vg&__tn__=-R

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button