ไข่มุก BNK48 เผยเคยคิดอยากหายไปจากโลกนี้ หลังถูกไซเบอร์บูลลี่
ไข่มุก BNK48 เผยเคยคิดอยากหายไปจากโลกนี้ หลังถูกไซเบอร์บูลลี่
วันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ไข่มุก BNK48 หรือ วรัทยา ดีสมเลิศ ได้แชร์ข่าวที่ ฮานะ คิมุระ นักมวยปล้ำสาวชาวญี่ปุ่น เสียชีวิตลงในวัย 22 ปี เนื่องจากถูกบูลลี่ในโลกโซเชียลอย่างหนัก ลงในเฟสบุ๊ก Kaimook BNK48 โดยเธอบอกว่าตนเคยมีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน หลังจากที่เคยถูกบูลลี่อย่างหนัก โดยไข่มุกบอกว่า
อายุเท่ากับเราเลย.. หลับให้สบายนะคะ คุณได้มอบความรักและความสุขให้กับแฟนๆที่ติดตามคุณมามากแล้ว ถึงเวลาปล่อยให้ร่างกายและหัวใจได้พักผ่อนนะคะ คิดว่าถึงวันนี้เราก็อยากจะบอกเรื่องนึงกับทุกคนค่ะ
จริงๆแล้วตัวเราเองก็มีความคิดที่อยากจะหายไปจากโลกนี้เหมือนกันนะ เคยรู้สึกว่าหากไม่มีเรา..ก็คงทำให้หลายคนสบายใจที่ไม่ต้องพูดคำที่ไม่ดีใส่กัน ไม่แสดงความเกลียดกันออกมา เรารู้สึกเหมือนเราเป็นศูนย์รวมของอารมณ์ด้านลบของคนอื่น
แต่ความจริงแล้วเราแค่เป็นคนที่แตกต่าง เรารู้ว่าเราไม่เหมือนใคร แต่มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ก็มีความแตกต่างกันไม่ใช่หรอคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ บุคลิก หรือนิสัยใจคอ มันคือความสวยงามที่ทุกคนมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นก็ควรจะยอมรับและให้เกียรติทุกคนอย่างเท่าเทียมในฐานะเพื่อนมนุษย์นะคะ
เราเคยคิดนะว่าคนที่เขาไม่ชอบเรา เขาไม่ชอบเราเพราะอะไร อาจจะเป็นแค่เพราะว่าเขาแค่อยากจะมอบความเกลียดให้เราเขาจึงมองว่าเราแบ๊วในสายตาเขา หรือเป็นเพราะเราแบ๊วเขาจึงเกลียดเรา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนเราก็ไม่มีทางแก้ได้เลยค่ะ เพราะเขาได้ตัดสินคนๆนึงไปแล้ว และตัวเราก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะมันก็คือส่วนนึงของตัวตนเราจริงๆ
แต่สิ่งที่ทุกคนมองเห็นมันไม่ใช่ตัวตนของเราทั้งหมด มันเป็นแค่มุมเล็กๆมุมนึง ที่เราชอบพูดคุยและมีลักษณะภายนอกที่เป็นแบบนี้ แต่หากได้ลองมารู้จักตัวตนที่แท้จริง ลองรู้จักตัวเราให้ลึกดูอีกหนึ่งขั้นก็จะมองเห็นในอีกแบบนึง ยิ่งลึกลงมาอีกก็จะสัมผัสได้ถึงจิตใจที่แท้จริงของไข่มุกจริงๆค่ะ
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกลียดใคร ก็ขอให้มองคนนั้นแบบลึกๆ แบบถี่ถ้วนนะคะ อย่างนักมวยปล้ำหญิงคนนี้ที่โดนผู้คนพูดด้วยคำเกลียดชังทุกวัน เคยมีใครมองเขาที่ลึกๆในใจเขาบ้างไหมคะ เพราะเขาเองก็มีความฝันที่จะเป็นนักมวยปล้ำหญิงที่ประสบความสำเร็จ ได้พิสูจน์ตัวเอง เป็นที่ยอมรับของใครๆ หากแต่ว่าวันนี้เขาไม่ได้ทำมันต่อไปแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจ และน่าเศร้ามากๆนะคะ
วันนี้ที่มาเขียนยาวขนาดนี้ก็เพราะว่ามีความตั้งใจจริงๆว่าอยากให้ทุกคนหันมาตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น อย่าเพิ่งตัดสินใครก่อนได้ทำความรู้จักกับคนนั้น อย่าพูดคำด่าทอหากไม่เคยแม้แต่จะพูดทักทายคนนั้น และอย่าเพิ่งเกลียดชังหากยังไม่รู้ถึงจิตใจที่แท้จริงของคนนั้น
มาถึงจุดนี้หลายคนก็คงถามว่าไข่มุกหลุดมาจากความรู้สึกคิดสั้นได้ยังไง ไข่มุกบอกกับตัวเองเสมอว่า หากหัวใจของเรายังเต้นอยู่..เราก็ต้องสู้ต่อไป ชีวิตของคนเรามันไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ง่ายๆแค่นี้ หากไข่มุกคิดว่าอยากตายเมื่อไหร่ ไข่มุกก็จะนอนหลับแล้วตื่นมาเพื่อเช้าวันใหม่แล้วบอกกับตัวเองว่า นี่ฉันได้เกิดใหม่แล้ว
ชีวิตของฉันต่อจากนี้ฉันจะเป็นคนเลือกเอง ฉันจะเลือกรับสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต จะไม่จมปลักกับคำพูดไม่ดีที่คอยฉุดรั้งเราให้ลงไปอยู่ในพวังแห่งความเศร้าอีก ใครบอกว่าชีวิตนี้ไม่มีความสุข ไม่มีทางเลือกเลย จริงๆแล้วบางทีเราอาจจะแค่กำลังหลงทางและหาทางออกไม่เจออยู่ แต่ชีวิตทุกคนมีทางเลือกเสมอนะคะ อย่างน้อยเราก็สามารถเลือกที่จะมองด้านดีๆ เปิดรับสิ่งดีๆให้เข้ามาในชีวิต นั้นเป็นความสุขที่เราสามารถมอบให้ตัวเองได้อย่างแท้จริงเลยค่ะ
5555 มาถึงจุดนี้คนจะมีใครมองว่าเราเป็นพวกโลกสวยอยู่สินะ จริงๆแล้วโลกของเราก็ไม่ต่างจากทุกคนหรอกค่ะ เราก็อยู่ในโลกใบเดียวกัน โลกสีเทาๆใบนี้แหละ ที่มีทั้งความทุกข์และความสุขปนกัน แต่เราแค่เป็นคนที่มองหาด้านแสงสว่างในความสับสนวุ่นวายของโลกใบนี้แค่นั้นเอง ทุกคนรู้แบบนี้แล้วจะมัวแต่มองแต่ด้านที่มืดมนกันอยู่ทำไมละคะ เพราะก็คงไม่มีมนุษย์คนไหนที่อยากทำร้ายตัวเองหรอกจริงไหม
หากใครจะมองว่าเราโลกสวยก็ช่างปะไร เพราะนั้นคือความสุขไม่ใช่หรอคะ แต่ก่อนคนชอบว่าเราคำนี้เยอะมากๆ เราสับสนในตัวเองมาก แต่เราไม่ร้องไห้นะ555 เราก็พยายามที่จะค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำๆนี้ จนมาวันนี้ อ๊ะ ยอมรับก็ได้ ‘ชั้นนนนเป็นนนนคนนนนโลกกกกสวยยยยยยยย!!’ 5555555 ตอนนี้รู้สึกภูมิใจกับคำนี้อยู่หน่อยๆ ก็เพราะว่าเป็นคนโลกสวยไม่ใช่หรอ ถึงทำให้เรายังมีชีวิตอยู่ในทุกวันนี้
นอกเรื่องมาเยอะแล้ว สรุป.. สำหรับทุกคนที่กำลังเผชิญกับปัญหา cyberbully การกลั่นแกล้งจากทางอินเตอร์เน็ตจนมันส่งผลต่อสภาพจิตใจและชีวิตจริงของเรา ก็อยากให้เปิดรับแต่พลังงานด้านบวกเข้าไว้ (พูดเหมือนง่ายแต่ทำจริงได้ยากใช่ไหมคะ?) เพราะงั้นลองลบ social media ของตัวเองสัก 1 อาทิตย์ค่ะ แล้วใช้ชีวิตแบบใช้จริงๆเลยนะ ดูสิจะมีคนไหนเดินผ่านเราในตลาดแล้วด่าว่าเราจะมีสักคนไหม ซึ่งมันไม่มีหรอกค่ะ ดูสิทุกคนที่ใช้ชีวิตอยู่รอบตัวเราไม่เห็นมีใครมาพูดทำร้ายจิตใจเราเลยสักคน แล้วเราจะเอาอะไรกับคนในโซเชียลที่เขาไม่สามารถส่งผลอะไรกับชีวิตจริงเราได้เลยจริงไหมคะ
เปิดรับแต่คำพูดดีๆที่สร้างพลังงานด้านบวกและเป็นแรงพลักดันในชีวิตของเราต่อไป ส่วนคำพูดที่มันไม่ดีก็ปล่อยมันไป หากเราไม่รับมันก็จะย้อนคือไปสู่คนที่พูดเอง ลองทำดูนะคะ แล้วจิตใจของเราจะสงบมากขึ้น จะไม่ยึดติดกับคำพูดในอินเตอร์เน็ต และจะมีความสุขในการดำเนินชีวิตจริงมากขึ้น และหากใครคิดสั้นไข่มุกอยากให้ลองคิดใหม่ค่ะ ไข่มุกเข้าใจดีความรู้สึกนี้ดีว่ามันก็คงมีบางคืนแหละที่เรามัวแต่คิดเรื่องนี้ ไม่สามารถสลัดมันออกจากหัวได้ จนบางทีก็เผลอคิดไปว่าหรือจะต้องจบลงด้วยวิธีนี้
แต่เราต้องคิดถึงชีวิตจริงของเราให้มากๆด้วยค่ะ คิดว่าหลายคนในยุคนี้เล่นโซเชียลทุกวัน จนแยกไม่ออกแล้วว่าอันในคือชีวิตที่เราใช้อยู่จริงๆ อยากให้คิดถึงครอบครัว คนรอบข้าง เพื่อนๆ คนที่คอยทำให้เรามีความสุขได้ตลอด เขาจะรู้สึกยังไงหากเราหายไป ทุกคนในชีวิตจริงของเราคงเศร้าไม่ต่างกัน แต่คนในโซเชียลที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองได้ขนาดนี้เนี่ย เขาจะรู้สึกอะไรไหม ซึ่งคำตอบมีอยู่แค่คำเดียวค่ะ คือเราต้อง สู้!! ชีวิตคนเราเกิดมาแล้ว ล้มก็แค่ลุกขึ้นใหม่แค่นั้นเอง ในวันนี้มันอาจจะสะบักสะบอมหน่อย แต่เชื่อว่าวันนึงเราต้องกลับมาเดินได้อย่างสง่างามให้ได้
ไข่มุกบอกกับตัวเองเสมอว่าถ้าอยากตายก็ปล่อยให้ตายไป แต่พรุ่งนี้เช้าฉันจะเกิดใหม่เป็นคนที่เข้มแข็งกว่าเดิม และภูมิใจในความแตกต่างของตัวเอง ที่คนเขาเกลียดเราเพราะเขาอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น แต่คนที่จะมอบความรักให้เราได้ก็คือตัวเราเองนะคะ รักตัวเองให้มากๆ เป็นตัวของตัวเองเข้าไว้ มีคนพร้อมให้จะรักและสนับสนุนในแบบที่เราเป็นอยู่ ทุกคนลองดูนะคะ ตื่นมาตอนเช้าแล้วเราจะพบว่า ดวงอาทิตย์มอบพลังให้กับเราได้ด้วย