สตช. แถลงปมกักตุนหน้ากากอนามัย หาตัวแหม่มโพธิ์ดำ ผิดพ.ร.บ. คอมฯ
สตช. แถลงปมกักตุนหน้ากากอนามัย หาตัวแหม่มโพธิ์ดำ ผิดพ.ร.บ. คอมฯ
วันที่ 9 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.พร้อมผู้บังคับบัญชาตำรวจแต่ละหน่วยงานร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์-วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา หลังมีประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม โดยจับกุมผู้กระทำผิด 328 ราย ยึดของกลางหน้ากากอนามัย 2,587,578 ชิ้น เครื่องวัดอุณหภูมิ 2,764 เครื่อง เจลแอลกอฮอล์ 80,500 ลิตร ชุดเครื่องตรวจไวรัสโควิด 55,048 ชิ้น รวมมูลค่าทั้งหมด 71,959,665 บาท
พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก.เปิดเผยว่า หลังมีประกาศเป็นสินค้าควบคุม ผู้ผลิตรายต่างๆ ต้องรายงานปริมาณจำนวนการผลิต การนำเข้า-ส่งออกต่อกรมการค้าภายใน ซึ่งตำรวจประสานข้อมูลกรมการค้าภายใน และกรมศุลากร หากพบว่าผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีคดีสำคัญที่เกี่ยวข้อง 4 เรื่องคือ
1.คดีจับกุมนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ เสี่ยบอยมิดไนท์ ที่โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ก่อนขยายผลจับกุม นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 2,826 ชิ้น
2.คดีนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อแหม่มโพธิ์ดำ นำข้อมูลเท็จของเสี่ยบอยมาแชร์ต่อ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการส่งต่อข้อมูลเท็จ โดยตำรวจกำลังสืบหาตัว
3.คดีที่อดีตอธิบดีกรมการค้าภายในแจ้งความต่อโฆษกกรมศุลกากรกรณีแถลงข่าวการส่งออกหน้ากากอนามัย ล่าสุดผู้ร้องทุกข์ได้ถอนแจ้งความเพราะถือเป็นความผิดส่วนตัว และสำนวนถูกส่งให้อัยการเรียบร้อย
4.คดีที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ว่าสั่งหน้ากากอนามัยกับนายอานนทวัฒน์ วรเมธชยางกูร ซึ่งตำรวจได้จับกุมและให้ประกันตัวไปแล้ว
การจับกุมนายพันธ์ยศ ซึ่งมีหลักฐานเชื่อมโยงพบว่าเป็นตัวการขายหน้ากากอนามัยรายใหญ่ของประเทศ จากพฤติกรรมพบว่าเป็นผู้สั่งนำเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ผลิตเอง แต่จะผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์และสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อสร้างคุณค่า ก็ถือเป็นความผิดเกี่ยวข้องกับการผลิต
ทั้งนี้นายพันธุ์ยศ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่หากพบความผิดอื่นก็จะแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้อง แยกเป็นต่างกรรมต่างวาระ อย่างไรก็ตาม ขบวนการกักตุนอนามัยที่ถูกจับกุมครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความขาดแคลนหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ จนมีการกักตุนและมีราคาสูง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนเกี่ยวข้องกับขบวนการขายหน้ากากนี้อีกจำนวนหนึ่ง ยังไม่พบว่ามีนักการเมือง แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งให้เอาผิดทั้งหมดไม่ยกเว้น
ทาง ด้าน พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรมัย ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า สำหรับคดีการจับกุมนายศรสุวีร์ หรือเสี่ยบอยมิดไนท์ พบพฤติกรรมผู้ต้องหาที่พยายามทำตัวเองเป็นตัวกลางรวบรวมหน้ากากไปขายต่อให้นายพันธุ์ยศ โดยล็อตที่นำไปขาย ระยะหลังสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ที่พยายามสร้างยี่ห้อสินค้าหน้ากากอนามัยตัวเอง มีทั้งไทยเฮลล์ และอื่นๆ พบว่ามีการขายลิขสิทธิ์สินค้าด้วย
ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกมิติทั้งหลักฐานการซื้อขาย การติดต่อต่างๆ จนพบว่ามีความเชื่อมโยงบุคคลอื่นๆ 7-8 คน อยู่ในขบวนการนายหน้าซื้อขายเก็งกำไรรายเดียวกันจึงสามารถออกหมายจับได้ จากนี้ก็จะดำเนินการขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องรายอื่นต่อไป
ที่มา: ข่าวสด