นอกจากจะมีธุรกิจหลักเป็นการให้บริการฉายภาพยนตร์แล้ว ธุรกิจที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของ เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ กรุ๊ป ก็คือการขายป๊อปคอร์นสำหรับให้ผู้ชมนั่งรับประทานระหว่างชมภาพยนตร์ครับ ซึ่งผู้ชมมีชื่อเรียกเฉพาะให้ว่า “ป๊อปคอร์นเมเจอร์”
เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางเมเจอร์ฯ ได้เปิดเผยว่ารายได้จากการขายป๊อปคอร์นในช่วง 9 เดือนแรกของปี สูงถึง 1,500 ล้านบาทเลยครับ มากกว่ารายได้จากการขายโฆษณาที่สร้างเงินได้ 1,100 ล้านบาท เสียอีก แต่ก็ยังเป็นรองจากรายได้หลักที่มาจากการขายตั๋วหนังซึ่งทำเงินในช่วง 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 4,392 ล้านบาท
ป๊อปคอร์นเมเจอร์ฯ สดใหม่ทุกวัน หอมอร่อยทุกรสชาติไม่ว่าจะเป็นรส #Cheese #Sweety #SeaSalt ก็พร้อมเสิร์ฟถึงมือคุณผ่าน App Food Delivery ชั้นนำอย่าง Grab Food, LINE MAN X Wongnai และ FOOD PANDA
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เปิดรับออเดอร์ตั้งแต่เวลา 12.00 – 17.00 น. #MajorCineplex pic.twitter.com/izFi8JQ4DU
— Major Group (@MajorGroup) April 6, 2020
ระหว่างที่กิจการฉายภาพยนตร์ต้องพักไว้ก่อนระหว่างที่รัฐบาลออกพระราชกำหนดฉุกเฉินให้ปิดทำการชั่วคราวนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทางค่ายโรงหนังจึงต้องไปพึ่งรายได้จากป๊อปคอร์นในช่วงนี้ที่เป็นรายได้รองจากการจำหน่ายตั๋วหนังครับ
ทางเมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ ยังคงผลิตป๊อปคอร์นออกมาจำหน่ายอยู่และขายที่บางสาขาของโรงภาพยนตร์ เพื่อให้ลูกค้าเดินเข้าไปซื้อหามารับประทานได้ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีบริการส่งป๊อปคอร์นตรงไปยังถึงที่บ้านด้วย ระหว่างเวลา 12.00 – 17.00 น. ผ่านทางแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารอย่างไลน์แมน, ฟู้ดแพนด้า และ แกร็บ
