กินกันไม่ลง ! ไฮไลท์ บุรีรัมย์ 1-1 การท่าเรือ, ศุภโชคยิงแถมแผลแตก 19 เข็ม
บิ๊กแมตช์ฟุตบอล ไทยลีก 2020 ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม ระหว่าง ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานไม่ดีนัก รั้งอยู่ที่ 11 ได้เปิดสนาม ช้าง อารีน่า รับการมาเยือนของ สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือ เอฟซี ที่ลุ้นคืนจ่าฝูง หลังชนะมา 3 นัดรวด
ทางด้าน โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือของทีม จัดทีมชุดใหญ่ ชุดเต็มด้วยการส่งทั้งสุภโชค สารชาติ, เบอร์นาโดร คูเอสต้า, เควิน อินเกรโซ่ และ ริการ์โด บูเอ็นโน่ ลงสนามพร้อมกันครบครับ
ส่วนทางด้านผู้มาเยือน โค้ชโชค โชคทวี พรหมรัตน์ ก็มีดาวยิงของทีมทั้ง เซร์คิโอ ซัวเรซ รวมไปถึงเฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดซ ลงเป็น 11 ตัวจริงในเกมนัดนี้ด้วย
เริ่มเกมมา นาทีที่ 7 แฟนบอลเจ้าบ้านเกือบได้เฮลั่นสนาม เมื่อ จอง แจ ยอง ออกบอลจากกลางไปซ้ายถึง ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้ตั้งป้อมเปิดบอลเข้าไปที่เสาแรก แบร์นาร์โด คูเอสตา ได้ยิงตามน้ำบอลจะเข้าประตู แต่ทว่า รัตนัย ส่องแสงจันทร์ นายด่านทีมเยือนป้องกันไว้ได้ทัน
นาทีที่ 10 บุรีรัมย์ ได้เตะมุมทางซ้าย เควิน อินเกรโซ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษผู้เล่น 2 ทีมพยายามชิงจะหวะโหม่งบอล ก่อนที่บอลจะล้นมาเข้าทาง ริคาร์โด บูเอโน ได้วอลเลย์บอลไปติดบล็อกผู้เล่นการท่าเรือ เอฟซี เด้งพ้นอันตรายออกมา
ต่อมานาทีที่ 17 สุภโชค สารชาติ ได้บอลทางซ้ายก่อนจะลากเลื้อยกินแดนไปข้างหน้าแล้วปาดบอลเข้ากลางให้ เควิน อินเกรโซ ได้แต่งบอลก่อนจะซัดบอลจากระยะไกลบอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไป
GOAL !!! นาทีที่ 23 กลายเป็นผู้มาเยือนที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส หลุดกับดักล้ำหน้าใช้ความเร็วไปเก็บบอลได้ในเขตโทษก่อนจะยิงผ่าน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าประตูไป การท่าเรือ เอฟซี บุกนำ 1-0
GOAL !!! เข้าสู่ นาทีที่ 25 ปราสาทสายฟ้า ได้ตั้งเกมจากแดนกลาง รัตนากร ใหม่คามิ ยกบอลเข้าไปในเขตโทษ สุภโชค สารชาติ ใช้ความเร็ววิ่งทะลุแผงหลังทีมเยือนเข้าไปโหม่งบอลข้ามหัว รัตนัย ส่องแสงจันทร์ เข้าไปเป็นประตู 1-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอได้สำเร็จ
แต่ทว่าจังหวะนี้ สุภโชค สารชาติ หัวไปโดนศอกของ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ มีแผลแตกและเลือดออก ทำให้เล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลงสนามมาเล่นแทน
มาถึงนาทีที่ 45 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ทุ่มบอลเร็วให้ เควิน อินเกรโซ ได้จิ้มบอลให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จ่ายบอลให้ จอง แจ ยอง ที่อยู่หน้าเขตโทษได้จับบอลก่อนจะยิงบอลจากระยะไกลบอลเหินข้ามคานออกไป
จากนั้นไม่มีจังหวะอันตรายของทั้ง 2 ทีม ทำให้จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเสมอกับ การท่าเรือ เอฟซี อยู่ที่สกอร์ 1-1
ครึ่งหลังมา นาทีที่ 50 การท่าเรือ มาได้เตะมุมทางขวา บดินทร์ ผาลา เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมก่อนแม้จะมีผู้เล่นทีมเยือนโหม่งบอลเข้าประตู ก่อนที่จะมาแจกใบเหลืองให้กับ โก ซุลกิ ของการท่าเรือ เอฟซี และเควิน อินเกรโซ ของปราสาทสายฟ้า ที่เล่นนอกเกมใส่กัน
นาทีที่ 68 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ริคาร์โด บูเอโน วิ่งเข้าไปกดด้วยเท้าขวาข้างถนัดบอลโค้งผ่านกำแพงก่อนจะเหินข้ามคานออกหลังไป
ต่อมานาทีที่ 71 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายอีกครั้ง เควิน อินเกรโซ เดินเข้าไปยิงด้วยเท้าซ้ายบอลลอยเหินข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 80 บุรีรัมย์ ได้ฟรีคิกริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลพุ่งแรงเข้าไปในเขตโทษ เซอร์จิโอ ซัวเรซ โขกสกัดบอลพ้นอันตรายออกมาได้
เข้าสู่นาทีที่ 82 จักรพันธ์ แก้วพรม กระชากบอลเรียบริมเส้นฝั่งขวาไปในแดนการท่าเรือ เอฟซี ก่อนจะเปิดเข้ามาในเขตโทษ แบร์นาร์โด คูเอสตา ได้โขกบอลพุ่งจะมุดใต้คาน รัตนัย ส่องแสงจันทร์ โดดตบบอลไว้ได้ทันก่อนจะตามมารับบอลได้ติดมือ
นาทีที่ 88 เจ้าบ้านขึ้นเกมทางขวาอีกครั้ง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม กระชากบอลไปจนเกือบสุดเส้นหลังก่อนจะเปิดเข้ามาในเขตโทษ ริคาร์โด บูเอโน ขึ้นโหม่งบอลเต็มหัว รัตนัย ส่องแสงจันทร์ รับบอลกระฉอกก่อนจะตามมารับบอลไว้ได้ติดมือ
มาถึงนาทีที่ 90+2 เควิน อินเกรโว เล่นฟรีคิกเร็วออกบอลมาทางซ้ายให้ ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้กระชากบอลขึ้นหน้าก่อนจะแต่งหาจังหวะยิงไกลบอลพุ่งผ่านเสาออกหลังไป
จากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมอ การท่าเรือ เอฟซี ไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า มี 4 คะแนน จาก 4 นัดที่ลงสนาม
ไฮไลท์ บุรีรัมย์ 1-1 การท่าเรือ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ศศลักษณ์ ไหประโคน, พรรษา เกมวิบูลย์, อันเดรา ตูเญซ, จอง แจ ยอง (จักรพันธ์ แก้วพรม), รัตนากร ใหม่คามิ, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุภโชค สารชาติ (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา), เบอร์นาโดร คูเอสต้า, เควิน อินเกรโซ่, ริการ์โด บูเอ็นโน่
การท่าเรือ เอฟซี : รัตนัย ส่องแสงจันทร์, เซร์คิโอ ซัวเรซ, ทศพล ลาเทศ (ธนบูรณ์ เกษารัตน์),โก ซุลกิ, บดินทร์ ผาลา (อดิศักดิ์ ไกรษร), ธนาสิทธิ์ ศิริผลา, ศิวกร จักขุ ประสาท, ดาวิด โรชิล่า, เควิน ดีรมรัมย์, นิติพงษ์ เสลานนท์, เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดซ