ผู้บริหาร BNK48 ต้อม-จ๊อบซัง ขอลาออก กรณีดราม่าเธียเตอร์ BNK48
จากกรณีดราม่าที่ เดอะ บราเธอร์ส ไทยแลนด์ ใช้พื้นที่เธียเตอร์ของสาวๆ BNK48 สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าแฟนคลับ ซึ่งมองว่าเป็นการรุกล้ำพื้นที่ และไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งงดสนับสนุนจนกว่าจะมีการชี้แจง หรือการแก้ไขที่ดี ทาง ต้อม จิรัฐ บวรวัฒนะ กรรมการผู้จัดการบริษัทอินดิเพนเด้นท์ อาร์สติสท์ เมเนจเม้น จำกัด และเป็นผู้บริหารสูงสุดของ BNK48 และ CGM48 และ จ๊อบซัง ณัฐพล บวรวัฒนะ ผู้จัดการวง BNK48 ก็ได้ออกมาแถลงข่าวที่ บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้น จำกัด (BNK48 DIGITAL STUDIO) ชั้น 7 ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
ต้อม: กรณีการใช้เธียเตอร์ของน้องๆ BNK48 ในการเป็นสถานที่จัดทำเวิร์กช็อปให้กับรายการ The Brothers หนึ่งครั้งที่ผ่านมานั้น ตัวผมในฐานะผู้บริหารสูงสุดขอแสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจดังกล่าว พวกเราเริ่มต้น BNK48 มาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากความเชื่อมั่นในวัฒนธรรมของ 48 และมีความมั่นใจว่าวัฒนธรรมดังกล่าว จะสร้างความสุขความสนุกในการใช้ชีวิตของพวกเรา การติดตามเรื่องราวของน้องๆ แต่เมื่อวันหนึ่งการตัดสินใจของพวกเราก่อให้เกิดความผิดพลาดและก่อให้เกิดความเสียใจกับแฟนๆ ความสนุกดังกล่าวน้อยลงไปหรือหายไป ตัวผมเองในฐานะที่มีความรับผิดชอบสูงสุดตรงนี้ เราขอแสดงความเสียใจ ขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ผมนายจิรัฐ บวรวัฒนะ ขอแสดงความขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยครับ
จ๊อบซัง: ผมนายณัฐพล บวรวัฒนะ ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยครับ
ต้อม: นอกเหนือจากการขอโทษครั้งนี้ ผมอยากจะแสดงความรับผิดชอบเพิ่มเติม ด้วยการขอถอนตัวออกจากการบริหาร 48กรุ๊ป ประเทศไทย
จ๊อบซัง: ผมขอถอนตัวออกจากการเป็นผู้จัดการวง BNK48 ครับ
ต้อม: ในการที่พวกเราขอถอนตัวในครั้งนี้ เราได้มีการพูดคุยกับทางคณะผู้ถือหุ้น คือทางแพลนดีมีเดีย และทาง AKS จากประเทศญี่ปุ่น ถึงแนวทางในการบริหารต่อไป ด้วยการที่ขอให้เขาส่งตัวแทนเข้ามาเป็นคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร หรือคณะผู้บริหารต่อไป โดยคณะผู้บริหารในอนาคตข้างหน้าที่จะเกิดจากการสรรหา จะเป็นการบริหารงานในลักษณของคณะกรรมการ เพื่อที่จะมีความเข้าใจ มีความระแวดระวัง ไม่ใช่เกิดการตัดสินใจโดยบุคคล แต่จะเป็นการบริหารงานร่วมของคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการนั้นจะเริ่มต้นสรรหาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะสามารถประกาศคณะทำงานต่อไปได้ในช่วงประมาณเดือนเมษายน ส่วนตัวผมเอง ผมขอยุติบทบาทในการบริหารงาน 48 กรุ๊ปไทยแลนด์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ
จ๊อบซัง: รวมทั้งตัวผมเองด้วยนะครับ ผมต้องขอขอบคุณแฟนๆ พาร์ตเนอร์ทุกท่านที่ร่วมเดินทางมากับเราตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน เป็นทั้งเพื่อนที่คอยให้คำแนะนำ ผมหวังว่าจากนี้ต่อไปก็ยังรักและดูแลน้องๆ กันต่อไปด้วย ขอบคุณครับ
บทบาทหลังจากนี้จะไปดูแลในส่วนไหน หรือไม่เกี่ยวข้องกับ BNK48 เลย?
ต้อม: ผมอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้นครับ ที่ผ่านมาผมก็อยู่ในฐานะผู้ถือหุ้นและเป็นทั้งผู้บริหารสูงสุด เป็นผู้ตัดสินใจสูงสุดของ 48 กรุ๊ปไทยแลนด์ วันนี้สิ่งที่ผมถอนตัวออกมา ผมจะไม่ตัดสินใจในเรื่องของ 48 กรุ๊ปไทยแลนด์ อีกต่อไปครับ
จ๊อบซัง: ส่วนของผมก็เหมือนกันครับ ดูแลในส่วนของโอเปอร์เรชั่นแต่ดูในภาพรวม ไม่ได้ดูแลในส่วนของ BNK48
นอกจากเรื่องเธียเตอร์แล้ว มีเรื่องอื่นด้วยไหมที่ทำให้เราตัดสินใจถอนตัว?
จ๊อบซัง: ผมคิดว่าที่ผ่านมา เราก็ทำงานหลายอย่าง มีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่ดี คงเป็นอุณหภูมิที่เรารับฟัง คนที่พอใจและไม่พอใจมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมคิดว่าเสียใจมากด้วย ต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้น ฉะนั้นก็คงเป็นเสมือนฟางเส้นสุดท้ายกับตัวเราเอง ที่คิดว่าเราทำพลาดไปแบบนี้ได้อย่างไร ก็เลยอยากจะแสดงความรับผิดชอบออกมาครับ
คิดว่าจะทำให้ความเชื่อมั่นกับแฟนๆ กลับมาได้ไหม?
ต้อม: ผมคงไม่ได้ถอยหรือถอนตัวออกมา เพราะว่าต้องการทำให้วงนี้ หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ผมอยากจะให้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างระบบ ในการบริหารงานที่ถูกต้องต่อไป ในการก่อให้เกิดการยั่งยืน ในการจัดการอย่างที่ทุกท่านเคยเห็น เคยได้ทราบแล้วว่า การเริ่มต้นทำได้ยาก ในการเริ่มต้นเราก็ใช้รูปแบบหลากหลายรูปแบบในการทำมันขึ้นมา แต่หลังจากนี้มันต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องถอยออกมา และเปลี่ยนชุดในการทำงานในรูปแบบของคอมมิตตี้ หรือคณะกรรมการที่ดูแลการแข่งขัน เพื่อที่จะยึดมั่นต่อวัฒนธรรม และความเชื่อมั่นต่อไปนะครับ
มีการพูดคุยกับน้องๆ BNK48 หรือยัง?
ต้อม: ได้พูดคุยชี้แจงไปให้เมมเบอร์ทราบแล้วนะครับ ว่าสิ่งที่เราแถลงวันนี้น่าจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบ คิดว่ารูปแบบที่จะเกิดขึ้นในการสรรหาที่ทั้งแพลนบีและ AKS น่าจะได้ สรรหาเอาคณะกรรมการที่มีประสิทธิภาพและยึดมั่นในอุดมการณ์ของ 48 มาบริหารได้ดี ทุกคนน่าจะดีใจต่อรูปแบบการทำงานใหม่ ที่จะมีการรับฟังความคิดเห็นของครบรอบด้านมากยิ่งขึ้นครับ
น้องๆ ว่ายังไงบ้าง?
ต้อม: ผมมีการชี้แจงไปแล้ว แต่ยังไม่มีมีการพูดคุยเลยครับ
ก่อนหน้านี้ BNK ก็มีปัญหาหลายอย่างเข้ามา ครั้งนี้เราตัดสินใจถอนตัวออกมาตัดสินใจยากแค่ไหน มันสุดแล้วใช่ไหม?
ต้อม: ผมเคยคิดมาตลอดถึงวันหนึ่งเราก็ต้องถอย ผมเคยพูดอยู่เสมอว่าธุรกิจนี้ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่แบกรับความรู้สึก ความรัก ความผูกพันของแฟนๆ ที่มีต่อน้องๆ มหาศาล ณ จุดๆ นี้น่าจะเป็นจุดที่ถึงเวลาของมันกับการถอยตัวออกมา แต่ไม่ใช่การทิ้งปัญหา ถอยตัวออกมาแล้วนำเสนอ ผู้ถือหุ้นให้แต่งตั้งกลุ่มคณะทำงาน ไม่ใช่แต่งตั้งคนเข้ามาหนึ่งคนมาแทนเรา แต่เป็นการแต่งตั้งในรูปแบบของการเป็นคณะกรรมการที่ดูแลการแข่งขัน ที่จะมาจากหลากหลายภาคส่วน หลากหลายความสามารถมาช่วยกันบริหารองค์กรนี้ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
รูปแบบของการบริหารในอนาคตเป็นยังไง?
ต้อม: สิ่งที่จะเกิดขึ้นคงเป็นการยึดมั่นต่ออุดมการณ์ของ 48 เป็นการยึดถือและยึดแนวทางสิ่งที่ดี เขาได้ทำมาตลอดเวลา 15 ปี จนก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าวัฒนธรรม 48 นี่คือสิ่งที่ผมฝากเอาไว้นะครับ ผมพลาดจากตรงนี้ สิ่งที่ผมอยากจะให้คณะกรรมการต่อไปมองให้ลึกลงไปกว้างมากขึ้นก็คงเป็นเรื่องนี้ครับ
ด้วยความที่เราผูกพันกับวง ความรู้สึกส่วนตัวเราเป็นยังไง?
ต้อม: ผมรู้สึกเสียใจ ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกว่าเราผูกพัน เพราะเราสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา แต่เราสร้างขึ้นมาไม่ใช่เพื่อมาเป็นของเรา เราไม่ได้สร้างวัฒนธรรม48 หรือ BNK48 มาเพื่อเป็นของนายจิรัฐ เราสร้างมาเพื่อมอบความสุขให้แฟนๆ เพื่อมาเป็นกำลังใจให้กับสังคม แต่วันนึงสิ่งที่เราคิดอยากจะเป็นอย่างนั้นก่อให้เกิดความรู้สึกเสียใจ ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ มันก็ขัดแย้งต่อจิตวิญญาณของการเริ่มต้น เมื่อมันเป็นอย่างนั้นเราก็พร้อมที่จะถอยออกมา
เราประคองน้องๆ มาโดยตลอด เรารู้สึกยังไงบ้าง?
จ๊อบซัง: รู้สึกเสียใจ แต่สิ่งที่เราตัดสินใจผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีต่อองค์กรนี้ สามารถที่จะเดินต่อไปได้อย่างยั่งยืน เราเชื่ออย่างนั้นครับ
ในการสร้างเธียเตอร์แฟนคลับเข้ามามีส่วนร่วมด้วย มองตรงนี้ยังไง?
ต้อม: การมีส่วนร่วมมาจากทุกภาคส่วน เรามีทุกภาคส่วนมาช่วย แฟนคลับก็เป็นส่วนนึงที่เข้ามาสนับสนุนให้เกิดรูปแบบจาก Founder member การขายบัตรล่วงหน้า ต้องบอกว่าทุกภาคส่วนช่วยกันขึ้นมา แม้กระทั่งคนเล็กๆ ที่ช่วยทำคลิปโดยที่ไม่ได้หวังอะไร แค่หวังอยากจะให้คนได้เห็นน้อง มีคนได้ดูความน่ารักของน้อง พวกเราเห็นถึงความตั้งใจและความหวังดีของทุกคนทุกภาคส่วน BNK48 เกิดขึ้นมาไม่ใช่จากตัวผมเพียงคนเดียวที่เป็นผู้ถือหุ้น แต่เกิดจากทุกคนที่รักในน้องๆ รักในวัฒนธรรมและเชื่อมั่นในสิ่งนี้ ผมต้องขอขอบคุณสำหรับทุกภาคส่วนที่ทำขึ้นมา เรามองเห็นทุกคน แฟนอาร์ตที่เริ่มเขียนการ์ตูนวาดรูปของน้องๆ คนที่ตัดคลิปตลกๆ คนที่แต่งเพลงให้น้องๆ คนที่ซื้อตั๋วซื้อบัตรกันล่วงหน้า คนที่สนับสนุนซื้อสินค้าของน้องๆ คนที่เข้ามาจ้างน้อง เป็นสปอนเซอร์ ให้พื้นที่กับน้อง ทุกภาคส่วนมีความสำคัญและทำให้เกิดวัฒนธรรมนี้
เปลี่ยนทีมผู้บริหารแต่ก็ยังใช้ BNK48?
จ๊อบซัง: แน่นอนครับ มีผลตั้งแต่วันนี้
ได้เข้าไปดูที่แฟนคลับแสดงความคิดเห็นไหม?
ต้อม: เข้าไปดูตลอด
อยากจะฝากอะไรถึงคนที่ชื่นชอบเรา?
ต้อม: ขอบคุณทุกกำลังและแรงใจ แรงกาย แรงสนับสนุน แรงเงิน ที่ทุกคนช่วยให้ BNK48 เกิดขึ้นในประเทศไทย ขอบคุณทุกคนที่หวังดีต่อน้องๆ BNK48 ทุกคนที่รักในน้องๆ ขอบคุณทุกคนที่รักในวัฒนธรรม48 ขอให้หลังจากนี้ทุกท่านได้ช่วยกันสนับสนุนและให้กำลังใจน้องๆ กันต่อไป ต้องยอมรับว่าน้องๆ เสียใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งผมก็เสียใจที่ทำให้น้องๆ ต้องเสียใจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมทำได้ก็คือการแสดงความรับผิดชอบ สร้างมาตรฐานของการทำงาน เมื่อเราผิดเราก็ต้องถอยให้ได้ เราจะต้องไปยึดติดกับสิ่งที่เราทำอยู่ ต้องไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาแต่ต้องเป็นการวางรากฐานการทำงานที่ดีต่อไปในอนาคต
จ๊อบซัง: ผมก็ขอขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนเรามาตั้งแต่วันแรก รวมถึงสื่อมวลชนที่คอยเขียนข่าว คอยเป็นกำลังใจ คอยให้คำแนะนำในหลายส่วนมาโดยตลอด ขอบคุณพาร์ตเนอร์ ผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือสปอนเซอร์ต่างๆ ผมรู้สึกดีใจที่ผมได้มาทำงานที่นี่ ผมรู้สึกได้เรียนรู้ รู้สึกเติบโตอยู่ตลอดเวลา ดีใจที่ได้รู้จักพวกเขาเหล่านั้นรวมถึงตัวน้องๆ ด้วย ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนึงครับ
