สาวไทยอายุ 28 ปี ได้ร้องขอให้สถานทูตไทยช่วยพาตนเองกลับประเทศ หลังถูกหลอกให้มาขายบริการที่ประเทศบาห์เรน ก่อนได้รับข้อความว่า เตรียมเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว หลังเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมานามา ประสานความช่วยเหลือ โดยเดินทางกลับมาถึงประเทศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 ธ.ค. พร้อมกับหญิงสาวที่ถูกหลอกอีกราย วัยเพียง 22 ปี
หญิงสาวรายนี้ เล่าว่า นายหน้าหญิงรายหนึ่งชักชวนผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าให้ไปทำงานที่บาห์เรน ได้เงินดี และไม่ต้องเสียค่าตั๋ว ค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งใช้เวลาเพียง 3-4 เดือน จะได้เงินก้อนใหญ่กลับบ้าน ทำให้หลงเชื่อ และตัดสินใจเดินทางจากไทย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับเพื่อนหญิงรวม 4 คน
เมื่อตนไปถึงที่กรุงมานามา บาห์เรน กลับถูกยึดพาสปอร์ต และจับแยกไปอยู่คนละอพาร์ตเมนต์ ที่มีหญิงไทย และแม่แท็กอาศัยอยู่ ก่อนจะถูกบังคับให้ไปรับแขกที่สถานบริการแห่งหนึ่ง โดยแม่แท็กอธิบายว่า ตนเองมีหนี้ที่ต้องชดใช้ แลกกับค่าเดินทางมาเกือบ 2 แสนบาท ซึ่งหากรับแขกได้มาก ก็ยิ่งปลดหนี้ หรือ ปิดแท็กได้เร็ว
ทั้ง 14 วันเจอทั้งลูกค้าที่เข้าใจ และ โหดร้าย จนร่างกายบอบช้ำ ทำให้ตัดสินใจวางแผนหลบหนีกับเพื่อนๆ 4 คน พร้อมกับโทรศัพท์ประสานสถานทูต ซึ่งแนะนำให้เรียกแท็กซี่มาที่สถานทูต แต่ปรากฏว่าแท็กซี่ที่เรียกไป โทรศัพท์บอกแม่แท็ก ทำให้หนีมาได้เพียง 2 คน ก่อนที่สถานทูตนำรถแท็กซี่สถานทูตมารับ รู้สึกโล่งใจ และดีใจที่เห็นธงชาติไทยอีกครั้ง
อยากฝากถึงหญิงไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ หวังให้ได้เงินจำนวนมาก หลายคนทำเกินกว่าครึ่งปี ก็ยังไม่สามารถชดใช้หนี้ทั้งหมดได้ ขณะที่หญิงสาวทั้งสองทำงานมา 14 วัน กลับมามีเงินมาเพียง 500 บาทเท่านั้น ทั้งสองเชื่อว่าหากวันนี้ ไม่สามารถหนีมาได้ ก็อาจจะไม่มีชีวิตกลับมาอีกก็ได้
“กลัวเพราะมีพี่บอกว่าหากหนีไม่รอดจะฆ่าทิ้ง เขาจะจับเราโยนจากตึกที่เราอยู่ อยากบอกคนที่อยากไป อย่าไปเลย มันไม่ดีเลย เราอยากได้เงิน เพื่อมาเลี้ยงครอบครัวเรา แต่ไปถึงแล้ว ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เขาบอก มันน่ากลัวมาก” หญิงสาวกล่าว
ที่มา ข่าวสด
