บันเทิง

หญิง อภิสรา ขาดเงินรักษาโรค หนูเล็กช่วยเหลือ แจ๊คคอยให้กำลังใจ

หญิง อภิสรา ขาดเงินรักษาโรค หนูเล็กช่วยเหลือ แจ๊คคอยให้กำลังใจ

ห่างหายจากวงการไปนาน สำหรับอดีตดาราเซ็กซี่ หญิง อภิสรา และแฟนหนุ่มนักแสดงตลก เเจ๊ค เชิญยิ้ม เนื่องจากหญิงป่วยหนัก เดินไม่ได้ ไม่มีแรง จนถึงขั้นเคยคิดอยากตาย จนต้องออกมาโพสต์ขอบริจาคเงิน และก็ได้หนูเล็ก ก่อนบ่าย ช่วยเป็นกระบอกเสียงอีกแรง งานนี้ทั้งแจ๊คและหญิงก็ได้พากันมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31

ทราบข่าวหญิงป่วยหนักหนูเล็กทำยังไง

Advertisements

เริ่มแรกหนูไปถ่ายรายการแล้วเจอพี่จตุรงค์ เขาบอกว่าเห็นหรือยังว่าหญิงเขาป่วย หนูรีบดูในไอจีเลย พี่หญิงโพสต์จริงๆ หนูรีบโอนเงิน 10,000 บาทให้พี่หญิง แล้วก็รีบโพสต์ในไอจีโดยที่ไม่ได้ถามเจ้าตัวว่าขอให้โพสต์มั้ย คือเพิ่งมาคิดที่บ้าน แฟนเขาบอกว่าเขาให้เราโพสต์หรือเปล่า มันจะเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่ารักเขา อยากช่วยเขา

กลัวไหมว่าจะมีคนสร้างข่าวปลอม

ไม่กลัว เพราะหนูกับพี่หญิงโทรหากันเรื่อยๆ อยู่แล้ว ล่าสุดที่เขาโพสต์ไปหนูก็โทรหาพี่หญิง เขาก็ป่วยจริง เขายกมือขึ้นไม่ได้เลย ให้แม่ช่วยยก ช่วยกดไลค์ด้วย

หนูเล็กสนิทกับหญิงกับพี่แจ็คมากแค่ไหน

หนูไม่ได้สนิทขนาดไปมาหาสู่กัน แต่ทุกครั้งที่เจอในรายการจะรู้สึกว่าคู่นี้ทำไมเขาเอ็นดูเรา เขาน่ารักกับเรา ใครที่น่ารักกับหนู หนูก็จะรักเขาเลย หนูพร้อมช่วยเหลือตลอดเวลา

Advertisements

พอช่วยไปแล้ว โอนเงินไปแล้ว โพสต์ไปแล้ว ฟีดแบ็กกลับมายังไง

คนเข้ามาถามเยอะมากว่าเรื่องจริงมั้ย หนูเลยโพสต์ครั้งที่ 2 ว่ามันคือเรื่องจริง ต้องขอบคุณคนที่ติดตามในเฟซบุ๊กหนูเล็ก ก่าก๊า แล้วก็แฟนเพจด้วยที่ช่วยกันบริจาค

ตอนแจ็คกับหญิงเห็นหนูเล็กโพสต์ช่วยรับบริจาครู้สึกยังไงบ้าง

แจ็ค: ทุกๆ คนพี่น้องในวงการหรือประชาชนทั่วไปได้เห็นเราทั้งคู่เป็นแบบนี้ มีการออกมาโพสต์ ขอความช่วยเหลือ เป็นห่วงเป็นใยเราแน่นอนครับ ยังไงก็รู้สึกดีแล้วก็ขอบคุณทุกคนด้วย

ฟีดแบ็กหลังจากโพสต์เป็นยังไง

หญิง: จริงๆ แล้วก็มีทั้ง 2 ด้าน คนที่เขาเห็นใจเราจริงๆ ก็มี กับที่เขาบอกว่าเป็นดาราแล้วเอาเงินไปไหนหมด คนที่ต่อต้านเกรียนคีย์บอร์ดก็เยอะ ก็พยามยามอ่านแต่สิ่งดีๆ อ่านแต่กำลังใจ เพราะว่าโรคนี้ต้องการกำลังใจ เราก็ไม่ได้อยากจะออกมาโพสต์ขอบริจาค ไม่ได้ปรึกษากับแจ็คนะ แต่คือแม่กับน้องชายเห็นว่าเราไม่ไหวแล้ว ไม่อยากให้ตาย น้องกับแม่ก็เลยช่วยกัน ผิดที่ไม่ได้ปรึกษาแฟนเราก่อน

ถามหนูเล็กหน่อยดีกว่าว่า มันมีกระแสออกมาทำไมดารา ศิลปินเวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้ออกมาเรี่ยไรรับบริจาคเงิน หนูเล็กอยากพูดถึงกรณีนี้ยังไง

หนูรู้สึกว่ามันไม่ใช่การเรี่ยไรบริจาค คือหนูมีคนติดตามในไอจี หนูคิดว่าคนที่ติดตามหนูก็น่าจะเป็นคนดี เป็นคนใจบุญเหมือนที่หนูเป็น ก็น่าจะช่วยเหลือพี่น้องหนูได้ หนูโพสต์ไปก็หวังว่าคนที่มีใจบุญเท่านั้น ไม่ได้หวังว่าทุกคนจะมาช่วย คิดว่ามันคือการแบ่งปันที่ดีให้คนที่เรารัก หนูคิดว่าคู่นี้เขาไม่เคยทำร้ายใคร เราควรช่วยเหลือเขา เขาดูแลตัวเองมาตั้ง 4 ปี เงินเขาก็ต้องหมด และครอบครัวเขาก็ไม่ได้มีรายได้อะไรเยอะแยะเลย งานเขาก็ไม่ได้เยอะทุกวัน เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยเหลือ

ตอนแรกที่หญิงบอกว่าไม่อยากโพสต์ แล้วคนในครอบครัวก็ไม่อยากไปรบกวนคนอื่น แต่วันหนึ่งแม่ยอมให้โพสต์เกิดอะไรขึ้น

แม่กับน้องชายทนไม่ได้ เห็นสภาพเราจากมีเนื้อมีหนัง ตอนนี้กลายเป็นแขนขาลีบเดินไม่ได้ เหมือนจะตาย เห็นแล้วแม่เขาก็ร้องไห้ น้องชายก็ร้องไห้ น้องชายบอกว่าไม่ได้แล้วเราต้องช่วยกัน น้องก็เลยออกมาโพสต์ ออกมาช่วยเหลือ

ขอนุญาติถามคุณแม่ว่าตอนที่น้องหญิงโพสต์รู้สึกยังไงบ้าง

ตอนนี้ที่น้องหญิงโพสต์ แม่กับน้องปรึกษากันแล้วว่าไม่ไหวแล้ว คือหญิงทนไม่ไหวแล้วไม่ได้จริงๆ อาทิตย์ก่อนหน้านี้น้องหญิงบอกว่า หญิงร้อน หญิงหายใจไม่ออก หญิงไม่ไหวจริงๆ แม่ต้องให้กำลังใจ แม่ก็บอกว่าไม่ได้นะลูก หนูต้องอยู่เพื่อแม่ เพื่อน้อง เพื่อหลาน คนข้างหลังเป็นห่วง แม่ให้กำลังใจหนู หนูต้องสู้ หนูจะสู้ก็ได้แม่ พอไปหาหมอแม่ก็บอกว่าใครมีจิตเมตตาจะช่วยก็ช่วย เราหมดหนทางจริงๆ เราก็เลยทำการโพสต์ช่วยน้อง

หลังจากที่แม่โพสต์ไป หนูเล็กเป็นคนแรกๆ ที่ช่วยโพสต์ต่อและช่วยเหลือ แม่มีอะไรอยากจะบอกมั้ย

แม่: ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือน้อง โพสต์ต่อเป็นสะพานบุญ ขอบคุณจริงๆ

หนูเล็ก: หนูรักพี่เขาทั้งคู่ คือตอนที่โพสต์ไม่ได้คิดอะไรนะ คิดแค่ว่าเราต้องช่วยเขา จะให้ช่วยดูแลเขาตลอดก็คงไม่ได้ เราก็เป็นสะพานบุญ อยากให้ทุกคนช่วยคนที่หนูรัก

มีอะไรจะบอกหนูเล็กมั้ย

หญิง: ต้องขอบคุณหนูเล็ก และต้องขอบคุณหลายๆ ท่าน แต่ส่วนมากกระแสมาจากน้องหนูเล็ก หลังจากที่น้องโพสต์ก็มีคนเข้ามาบริจาค เข้ามาช่วยเหลือ เขาก็บอกว่าทราบข่าวมาจากพี่หนูเล็ก ช่วยได้เยอะ มีกำลังใจขึ้นเยอะ ตอนแรกมันท้อ คนเราเคยเดินเหินได้แล้วเดินไม่ได้ เห็นสภาพร่างกายตัวเองตอนส่องกระจกก็คิดว่าทำไมสภาพเราเป็นอย่างนี้ เคยเห็นแต่คนอื่นพอมาเจอกับตัวเอง รับไม่ได้ ตอนนี้ก็พยายามสู้ ใจสู้เต็มร้อยเลย

แจ็ค: ขอบคุณน้องนะ จริงๆ เราเจอกันบ่อยๆ อยู่แล้วตามงาน เชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะคู่เรา ถ้าคนที่น้องรู้จักแล้วมีเรื่องเดือดร้อน น้องก็ยินดีที่จะช่วยทุกคนอย่างแน่นอน สิ่งที่ทุกๆ คนช่วยหญิงจะสะท้อนกลับไปเป็นบุญที่ดี ขอให้ทุกคนมีความสุข

หนูเล็กให้กำลังใจพี่แจ็ค พี่หญิงหน่อย

ก่อนอื่นอยากจะขอบคุณแฟนๆ ที่อยู่ในไอจี และในเฟสบุ๊ก ที่ช่วยคนที่หนูเล็กรัก หนูรักพี่ทั้งคู่เลย รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ขอให้สู้และอดทนทุกอย่างมันต้องผ่านไปได้ ขอให้ทั้งคู่แข็งแรง

นอกจากหนูเล็กแล้วยังมีเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงอีก?

หญิง: เยอะมากเลย ที่ไดเร็กเมสเสจกันเข้ามา มีน้องใบเตย,พี่เฟรช อริศรา, กุ๊บกิ๊บ, อั้ม พัชราภา ,หนิง ด้วย หลายคนเอ่ยชื่อก็คงไม่หมด เขาก็ส่งสลิปมาให้ดู คนรักเราขนาดนี้เลยหรอ เราก็สู้แต่ร่างกายมันไม่ไปตามใจ

ตอนนี้ที่นั่งคุยกับเรามีอาการยังไง

เหนื่อย เหนื่อยแบบจะขาดใจ ต้องนั่งพิง ถ้านั่งหลังตรงๆ จะเหนื่อยมาก ตอนนี้ซีกซ้ายไม่รู้สึก แขนไม่มีแรง แขนบวมมากเลย เส้นมันตันทำให้การไหลเวียนของเส้นไม่ดี เมือกี้ก็เพิ่งไปฟอกเลือดมาด้วยเลยเพลียๆ พอเส้นมันตันแขนมันโตมันไม่ไปเลี้ยงสมอง

หลายคนสงสัยว่าทำไมไม่ใช้สิทธิ์รักษา 30 บาท

ต้องบอกก่อนว่าก่อนที่จะมารักษาเส้นแขน ปรึกษามาหมดแล้ว หญิงมีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ ก่อนป่วยเราทำงาน ที่ทำงานเขาก็จะแจ้งสิทธิ์ประกันสังคม พอเราไม่ได้ทำงานแล้ว ก็ต่อประกันสังคมเอง ตอนที่รู้ว่าเป็นก็ปรึกษาคุณหมอเขาก็บอกว่ามันต้องเลือกระหว่าง 30 บาท กับประกันสังคม เราก็ใช้ประกันสังคม ถ้าตอนนี้จะไปใช้สิทธิ์ 30 บาท ก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่ มันยุ่งยาก

บางคนไดเร็กเมสเสจมาว่าทำไมไม่ฟอกทางหน้าท้อง เพราะเขาก็เป็น ที่ไม่ฟอกหน้าท้องเพราะว่าหญิงมีแผลผ่าตัดหน้าท้อง คุณหมอไม่ใส่ท่อให้ อันนี้ถามมาหมดแล้วก่อนจะมาจบที่เส้นแขน จริงๆ ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากทำอะไรเลย เป็นก็ให้มันตายๆ ไปเลย หมอเขาก็เลยแนะนำว่าถ้าทำได้ก็คือเส้นตรงแขน ตอนนั้นค่าใข้จ่ายก็ 30,000 บาท ประกันสังคมก็จ่าย เขามีโควตาให้ 2 ปี 30,000 บาท แค่นั้น หลังจากนั้นอีก 2 ปีถึงจะได้ทีละ 20,000 บาท หลังจากนี้เราต้องแก้เส้นแขนที่มันบวม มันเป็นเงินหมดเลย ค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเอง แล้วโรคนี้ค่าใช้จ่ายไม่ได้ถูกๆ

ก่อนหน้านี้เราเจอกันตามงาน ถามกันตลอดว่าต้องฟอกไตทุกครั้ง ตอนนั้นคือถ่ายฝั่งซ้ายออกฝั่งขวา?

หญิง: ไม่ ฝั่งซ้ายฝั่งเดียว เส้นเดียวเลยที่แขน เลือดมันไหลออกไปแล้ว มันไหลย้อนกลับไม่ดี เพราะมันตัน มันทำให้เส้นมันตีบ พอมันตีบหน้าก็จะบวม แขนบวม

แจ็ค: เราต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน

หญิง: ครั้งละ 2,000 บาท เดือนนึงก็ 20,000 กว่าบาท จ่ายค่าตัวกรองก็ 2,000

ต่อ 1 เดือนใช้ประมาณเท่าไหร่

แจ็ค: เยอะมากนะ ด้วยตัวหญิงป่วยด้วย ตัวแจ็คด้วย

เคยมีคนเล่าว่าหมอนัดให้ไปหา แต่ทั้งคู่ไม่ไปเพราะ?

แจ็ค: เงินหมด เราไม่ได้มีรายได้ในการแสดงเยอะเหมือนก่อน ด้วยเราป่วยด้วยก็จะรับได้เท่าที่ไหว การรักษามันมีทุกวัน ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟค่ากิน พอรายจ่ายมันเยอะเหมือนเดิมทุกเดือน รายรับมันน้อยลง แน่นอนยังไงมันก็หมด

หญิง: ก็คุยกันว่า ฟอกอาทิตย์ละสามวันก็ได้ จะได้ลดค่าใช้จ่าย หรือบางทีไม่มีเงินจ่ายค่าตัวกรอง ก็ค้างคุณหมอไว้ก่อนบอกว่าอีก 2 อาทิตย์ทำงานได้เดี๋ยวเอามาให้ หมอเขาก็โอเค

เห็นรอว่าจะเปลี่ยนไต ได้ไตแล้ว?

หญิง: ล่าสุดพาน้องชายไปตรวจ น้องชายจะบริจาคให้ แต่คุณหมอยังไม่ผ่าให้ เห็นสภาพคนไข้แล้วกลัวไปตายในห้องผ่าตัด หมอบอกว่ารักษาทีละสเต็ป เพราะแขนข้างนี้ก็ตัน ถ้าเปลี่ยนไตไม่รักษาแขนข้างนี้มันก็จะเป็นอย่างนี้ เพราะมันคนละส่วนกันไตกับแขน แก้ด้วยการทำแขนข้างนี้ให้มันยุบก่อนด้วยการใส่ลวด ฉีดสีอะไรของเขาไป พอแขนยุบแล้วก็ให้คนไข้แข็งแรงก่อน แล้วก็มาผ่าตัดเปลี่ยนไต แล้วเอาน้องชายมาตรวจอีกที ถึงเอาไตมาตอนนี้ไตมันก็เขี่ยออก เพราะมันเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกายไม่รับกัน

ถึงจะมีไตแต่ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไตก็ยังไม่มี ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการผ่าตัด ?

หญิง: ใช่ จริงๆ ค่าใช้จ่ายมันก็สูงอยู่แล้วนะ ประมาณ 8-9 แสน บางโรงพยาบาลก็เป็นล้าน หมอบอกว่าฉีดสี 8-9 หมื่น หมอก็พูดง่าย หนูจะหามายังไง

ที่หมอพูดมาก็ต้องหาก่อนนี้มาจ่ายก่อน ก็ไม่รู้ว่าจริงๆ จะได้เปลี่ยนไหม เพราะก้อนนั้นจะเป็นก้อนที่หนัก แค่ก้อนเบาๆ เฉพาะหน้าเท่าไหร่ ?

หญิง: ก้อนเบาๆ ก็น่าจะเกือบ 2 แสนแล้ว เพราะว่าฉีดสีไม่รวมใส่เส้นลวดบอลลูน บอลลูนก็อีกเป็นแสน แสนกว่าเกือบ 2 แสน

ตั้งแต่มีคนช่วยโพสต์ ตอนนี้ยอดที่บริจาคมา บอกได้มั้ย

หญิง: ยอดก็ประมาณ 4 แสน เงินส่วนนี้ช่วงนี้ยังไม่ได้ผ่าตัดไต ก็ต้องเอาไปใช้จ่ายในการแก้เส้นอุดตัน มันต้องทำไปทีละสเต็ป เราเปิดรับบริจาคเรื่อยๆ เพราะกันเงินไว้มันไม่ใช่ผ่าตัดแล้วจบ มันต้องมียากดภูมิ ต้องมีการรักษาหลังจากนี้

เห็นว่าสภาพจิตใจบางช่วงก็ท้อถอดใจด้วย?

หญิง: ก็อยากตาย เมื่ออาทิตย์แล้วคือเดินไม่ได้เลย บอกแม่ว่าทรมานจะตายแล้ว ไม่ไหวแล้ว มันร้อนในตัวไปหมดเลย

แจ็ค: มันหนักกว่าที่คิด เพราะตอนที่แจ็คป่วยก็หนักมากเหมือนกัน ก็นอนติดเตียง ผอมลง มีหญิงคอยดูแลในขณะที่หญิงก็ป่วยด้วย ก็ช่วยดูแลกันไป จนมาตอนนี้ปีกว่าแจ็คก็ดีขึ้น เริ่มที่จะทำงานได้บ้างแล้ว แต่ว่าหญิงกลับแย่ลง

หญิง อภิสรา

เคยมีความฝันไว้ว่าอยากแต่งงาน ตอนนี้ความฝันเป็นยังไงบ้าง

แจ็ค: ยังมีอยู่ในความคิดเราเสมอ เป็นความฝันสูงสุดของผู้หญิงทุกคน และเป็นความฝันสูงสุดของผู้หญิงคนนี้ด้วย เราคุยกันมาตลอด ด้วยการทำงาน ด้วยสุขภาพ แต่มันต้องมีซักวัน เชื่อว่าเรา 2 คนป่วยขนาดนี้ ผ่านมาได้ขนาดนี้ มันไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว แจ็คมั่นใจ เราให้กำลังใจอยู่แล้ว

หญิง: ขอกลับมาเดินได้ก่อน

อยากบอกอะไรซึ่งกันและกันมั้ย

หญิง: บอกกับเขาอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน ถ้าเป็นคนอื่นคงทิ้งไปแล้ว

กับคนที่อยู่ทางบ้านที่ช่วยบริจาค?

หญิง: ขอบคุณผู้ชมที่รู้จักก็ดี ไม่รู้จักก็ดี ที่ช่วยเหลือกันเข้ามา ซาบซึ้งมาก บางคนบริจาคเงิน บางคนให้กำลังใจ ขอบคุณค่ะ

แจ็คอยากบอกอะไรกับหญิงมั้ย กับคุณที่เรารักและอยากดูแลทั้งชีวิต?

บอกมาตลอดอยู่แล้วอย่างที่รู้กัน แล้วก็อย่างที่หญิงรู้ 12 ปีแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ป่วย จนตอนนี้ป่วยทั้งคู่ จนใกล้จะหายกันแล้ว มันมากกว่ารักไปแล้ว มันขาดกันไม่ได้ไปแล้ว จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ จะป่วย จะดูแลกันแบบนี้ตลอดไป

ภาพจาก: thebangkokinsight

P. Wanutch

อัพเดททุกความบันเทิง ทั้งไทย ต่างประเทศ K-pop รีวิวหนัง เพลง คอนเสิร์ต พร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button