ข่าวภูมิภาค

ปอร์เช่ ชนสาว 24 ดับ คนขับกลิ่นเหล้าคลุ้ง แต่ตร.ไม่ตรวจแอลกอฮอล์

จากกรณีอุบัติเหตุเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 พ.ย.บริเวณถนนหลักหก ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ที่รถยนต์ปอร์เช่ ขับข้ามเลนไปชนรถจักรยานยนต์ ฮอนด้ารีเบล ป้ายแดง จนทำให้นายวริศ ศรีลาชัยมณีกุล อายุ 31 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บาดเจ็บสาหัส แขนหักผิดรูป ขาขาด และนางสาวอันธิกา ทูลไธสง อายุ 24 ปี คนซ้อนท้ายบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณตี 4 ตนเองได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวบริเวณหน้าบ้านจึงวิ่งออกมาดู พบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ริมทาง ใกล้รถจักรยานยนต์มีผู้หญิงกับผู้ชายนอนอยู่ 2 คน ผู้ชายนอนร้องขอความช่วยเหลือ ส่วนผู้หญิงนอนนิ่งไม่ได้สติ

 

ภาพจาก ไทยรัฐ

 

ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถเก๋งปอร์เช่จอดนิ่ง ล้อรถหลุด กลิ้งไปไกลหลายเมตร สภาพด้านหน้าขวามีรอยชน ตนจึงรีบวิ่งไปดูคนเจ็บที่นอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ โดยได้ช่วยโทรศัพท์เรียกญาติของผู้บาดเจ็บมาที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถปอร์เช่ไม่ยอมมาช่วยคนเจ็บเลย ยืนอยู่แต่ตรงรถของตัวเอง แถมยังเรียกเพื่อนให้มารับ และขับรถพาไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อแถวนั้นอีก

 

พยานเล่าว่า คนที่มายืนดูเหตุการณ์ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า รวย แต่ไม่มีน้ำใจ แทนที่จะมาดูคนเจ็บสักหน่อย และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ คนขับรถปอร์เช่ เหมือนจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งออกมา ส่วนสาเหตุการชน ดูจากร่องรอยแล้วน่าจะเกิดจากรถปอร์เช่ข้ามเลนมาชนรถจักรยานยนต์

 

ส่วน นายธนกฤต ธัญญธนภัทร พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีลูกเพียงคนเดียว โดยลูกสาวประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารกับแฟนหนุ่ม และเป็นเสาหลักของครอบครัว การมาเสียลูกไปด้วยเหตุการณ์แบบนี้รู้สึกเสียใจมาก ตอนนี้รู้สึกโกรธว่า ทำไมผู้ก่อเหตุไม่เคยมาดูแลอะไรเลย แม้แต่วันรดน้ำศพก็ยังไม่มาขอขมาศพ ตนเองต้องเป็นฝ่ายโทรไปบอกอาการของลูกอยู่ตลอดเวลา

 

นอกจากนี้ อีกเรื่องที่ตนรู้สึกไม่สบายใจเลยคือ การทำหน้าที่ของตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เพราะวันเกิดเหตุก็ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ของผู้ก่อเหตุ ตำรวจอ้างว่าผู้ก่อเหตุไม่มีกลิ่นเหล้า ไม่จำเป็นต้องตรวจ ทั้งยังปิดห้องคุยกันเองระหว่างตำรวจกับผู้ก่อเหตุ และประกันรถยนต์ โดยไม่อนุญาตให้เข้าไปฟัง จึงอยากขอความเป็นธรรม อยากให้ตำรวจทำคดีแบบตรงไปตรงมา

 

 

ที่มา ไทยรัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button