หนุ่มซิ่งกระบะชนนิสิตในม.เกษตรฯ เครียดหนักถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย
จากกรณีที่ที่หนุ่มวัย 37 ปี นายรัฐวิทย์ สราวุธวินัย ขับกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ สีเทาเสียหลักพุ่งชนรถยนต์และรถจกัรยานยนต์ในมหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) ทำให้มีผู้ได้รับเจ็บ 5 ราย ซึ่งเป็นนิสิตของ ม.เกษตร ซึ่งคนขับอ้างว่าที่เหยียบเบรกไม่ได้เพราะรองเท้าแตะไปขัดอยู่ใต้แป้นเบรก
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (24 ต.ค.) ตำรวจ สน.บางเขน ระบุว่า หลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุ ยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีอาการเครียดถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ และญาติพยายามพูดคุยให้อาการดีขึ้นให้คิดบวกไว้ เพราะคดียังไม่จบ ซึ่ง นายรัฐวิทย์ เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า “ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ”
นายรัฐวิทย์ ให้การว่าขณะเกิดเหตุได้ขับรถมาในมหาวิทยาลัยตามปกติ เพื่อจะไปธนาคารที่อยู่ในมหาวิทยาลัย โดยใช้ความเร็ว 80 กม./ชม. ตนไม่สามารถที่จะควบคุมรถได้ เนื่องจากได้เหยียบเบรกแล้วแต่เบรกไม่ทำงาน ซึ่งปกติเวลาขับรถจะถอดรองเท้า จึงคาดว่ารองเท้าอาจจะไปติดตรงเบรกจึงไม่สามารถเหยียบเบรกได้
ตำรวจกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบรถกระบะคันนี้ว่าเกิดความผิดพลาดของตัวรถ หรือเกิดจากอุบัติเหตุ หรือจากความประมาทของผู้ก่อเหตุ โดยในวันพรุ่งนี้จะต้องมีการตรวจสภาพรถคันดังกล่าว ทั้งนี้ทางผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพทั้งหมด โดยจะไปเยียวยาช่วยเหลือและเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน
ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเนื่องจากผู้ก่อเหตุได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง หลังจากแจ้งข้อหาแล้วจะปล่อยตัวโดยไม่ต้องประกันตัว
หลังจากนี้จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์รถและผลการตรวจจากโรงพยาบาลว่าผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับบาดเจ็บขนาดไหน ก่อนจะสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการอีกครั้ง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 5 ราย อาการสาหัส 2 ราย บาดเจ็บธรรมดา 3 ราย ทั้งนี้ได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้วทั้งหมด 3 ราย และยังรอสอบปากคำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เหลือ
ทางตำรวจได้ฝากเตือนประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนหรือขับรถในมหาวิทยาลัยว่าควรที่จะใช้ความเร็วน้อย เพราะในมหาวิทยาลัยก็จะมีนักศึกษา และประชาชนใช้รถใช้ถนนร่วมกัน และเตือนน้องๆ นักศึกษาด้วยเพราะตามคลิปน้องนักศึกษาที่ขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก และฝากถึงทุกคนให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ประกอบกับในมหาวิทยาลัยจะมีกฎระเบียบข้อห้ามในการใช้ทางของมหาวิทยาลัยว่าจะสามารถใช้ความเร็วได้ประมาณไหน ก็ควรทำตามระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัยนั้นๆ
ที่มา ข่าวสด