ชมวาทะเด็ดธนาธร ให้การศาลรัฐธรรมนูญ คดีวีลัค ทำงานการเมืองเพราะอยากเปลี่ยนแปลงสังคม
ชมวาทะเด็ดธนาธร ให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ ลั่นผมไม่ใช่คุณทักษิณ
ธนาธร วีลัค – วันที่ 18 ตุลาคม 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ปากคำคดีหุ้นวิลัค นอกจากนี้ศาลยังพิจารณาไต่สวนพยายนอีก 9 ปาก ได้แก่ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ นายชัยสิทธิ์ กล้าหาญ ปิติ จรุงสถิตย์พงศ์ ทวี จรุงสถิตย์พงศ์ ลาวัลย์ จันทร์เกษม พนักงาน บ.วี-ลัค กานต์ฐิตา อ่วมงามขำ พนักงาน บ.วี-ลัค ณัฐนนท์ อภินันท์ ทนาย และ พิพัฒพงศ์ รุจิตานนท์ ทนาย
โดยนายธนาธร ขึ้นนั่งพยานให้การต่อศาลเป็นปากแรก โดยกล่าวความตอนหนึ่งว่า “ผมตั้งใจอย่างจริงจัง ว่าอยากจะทำงานการเมือง โดยที่ไม่มีข้อผลประโยชน์เหมือนกับที่คุณทักษิณโดนมาก่อน เพราะผมไม่ได้ตั้งใจมานั่งที่นี่มาทำอย่างนี้ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผมอยากจะผลักดันประเทศชาติให้ไปข้างหน้า ให้หลุดจากความขัดแย้ง ให้กลับมาเป็นประชาธิปไตย ให้มีนิติรัฐนิติธรรม ดังนั้น เป็นความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเอาตัวเองออกจากการเมือง
แล้วถ้าวันนี้ท่านตัดสินเป็นคุณกับผม ออกไปผมจะดำเนินการเรื่อง blind trust ต่อเลย ให้บุคคลที่3จัดการทรัพย์สินผมให้หมดเลย อย่างที่ผมสัญญากับประชาชนไว้ ผมสัญญากับประชาชนเรื่อง blind trust นี่นะครับ ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดอะไรเรื่องนี้ทั้งหมด เพราะผมตั้งใจอย่างนั้นอยู่แล้ว
ใช้มาตรฐานนักการเมืองตะวันตก ที่จะเอาทรัพย์สินของผมไปดูแลจัดการโดยที่ผมไม่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้จัดการเรื่อง conflict of interest เพราะผมไม่ใช่คุณทักษิณ ผมไม่ได้เข้ามาเพื่อที่จะมีผลประโยชน์ บริวารห้อมล้อมไม่ใช่ ผมมานั่งอยู่ตรงนี้ตัดสินใจอย่างนี้ เพราะผมอยากเปลี่ยนแปลงสังคม เพราะผมเห็นว่าสังคมเดินหน้าต่อไปอีกไม่ได้”
https://www.facebook.com/Thailandmirror/videos/2460757330809224/?__xts__%5B0%5D=68.ARCxuPkJkUtq7AvlG2ch9hiFH3oNMju0mqz33C095SRd2g-cGVTr4OTkfGeeCXWxcu5zXEEEWdfumhQWfGxfrxN63FDLHcgpuZ8a8N6q09H-IsH3nkcSw3PAJQQskm3VUnSqHqYhv9nb13uZsvl9HqdNM7jzOGFnKia44iNoaoYbdwFSOcT8JvRJfogPGsHg9n404z369QyPCUvjN1YjeHxEDUbdpnGLEIk7rnM6fhRtrVK5ivfDLPthpBuLSA7oQmTTe2BfejLKdWPNHj_TfVX2-t8NY632X1W2PO12vnBkI49y3CmhcJAhbtAX1U-i8IRoOMnxPZmpfvReFlVMxALUo8GyO5Cmxb8mKQ&__tn__=-R
ขอบคุณคลิปจาก : Thailandmirror
นอกจากนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของพวกเรา ถ้าดูดีๆ ไม่มีเอกสารหรือหลักฐานใดมาหักล้านข้อเท็จจริงที่เราพูดได้เลยจนถึงทุกวันนี้ คงต้องดูฝ่ายศาลว่าจะมีอะไรมาหักล้างข้อเท็จจริงที่เรายื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ
กรณีตัวบริษัทเองเป็นสื่อหรือไม่ ตนพูดมาหลายครั้งแล้วบริษัทหยุดดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพ.ย. ไม่มีโอเปเรชั่น ไม่มีพนักงาน ไม่มีการปฏิบัติการ เมือปิดไปแล้ว จึงไม่เป็นสื่อ ทั้งนี้ นายธนาธรได้ยกกรณีนายภูเบศ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกตัดสิทธิ เพราะมีผู้กับศาลฎีกาว่าถือหุ้นสื่ออยู้ในบริคนสนธิ ที่มีข้อหนึ่งระบุว่าวัตถุประสงค์ คือการทำหนังสือ แต่ข้อเท็จจริงบริษัททำรับเหมาก่อสร้าง แต่ศาลฎีการะบุว่า ดูบริคนสนธิก็ถือว่าทำสื่อแล้ว
แต่พอเรามาตรฐานี้ไปยื่นกับส.ส.ฝั่งรัฐบาลบ้าง ศาลรัฐธรรมนูญกลับบอกว่าจะดูแต่ตัวอักษรไม่ได้ ต้องดูว่าบริษัทนั้นจริง ๆ แล้วกระทำการกิจการสื่อสารมวลชนจริงหรือไม่ ดังนั้น ข้อโต้แย้ง วีลัคเป็นสื่อหรือไม่ หยุดดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถือว่าเป็นสื่อหรือไม่ ตกลงตีความข้อนี้อย่างไร ถ้าตีความว่าไม่เป็นสื่อทุกอย่างก็จบ
“ผมยืนยัน เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ คนที่เอาเรื่อง บอจ มาแอบอ้าง บอจ5 ลงหลังวันที่สมัคร ส.ส. กรณีคุณดอน ปรมัตวินัย ศาลก็ไม่ได้ดูบอจ.5 ที่ไปจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ดูตราศาลการโอนหุ้นก็เพียงพอแล้ว ผมและพรรคอนาคตใหม่ยืนยันความบริสุทธิ์ในสิ่งที่เราทำ” นายธนาธร กล่าวปิดท้าย