ธนาธร ชำแหละ ความย้อนแย้งของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ธนาธร ชำแหละ 3 ความย้อนแย้งของ พล.อ.ประยุทธ์ ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวถึงประเด็นท่าทีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญว่า
“จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยปฏิเสธการถือธงนำและขอให้ทุกฝ่ายที่อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญทำตามขั้นตอนกฎหมาย รวมถึงยังตั้งข้อสงสัยกับประชาชนที่เคลื่อนไหวณรงค์แก้ไขว่าเป็นกลุ่มไหน เป็นคนทั้งประเทศหรือไม่นั้น
ผมขอเรียนให้ทราบว่า คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์มีความย้อนแย้งในตัวเองอย่างมาก มีปัญหาทั้งในเชิงหลักคิดและข้อเท็จจริง 3 ประการ คือ
1. พล.อ.ประยุทธ์เองต่างหากที่ไม่ทำตามกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่เที่ยวบอกให้คนอื่นทำ ดังจะเห็นชัด การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ, การแถลงนโยบายโดยไม่ชี้แจงที่มาของเงิน และการทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ ล้วนผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น นี่คือสิ่งที่ย้อนแย้ง คือการบอกให้คนอื่นทำตามรัฐธรรมนูญ แต่ตนเองอยู่เหนือรัฐธรรมนูญเสมอ
2. การที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าการแก้รัฐธรรมนูญ “คนส่วนใหญ่เห็นด้วยไหม?” นี่คืออีกความย้อนแย้ง เพราะถ้าย้อนไปตอนทำรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ท่านได้ถามประชาชนบ้างไหมว่าเห็นด้วยกับการฉีกรัฐธรรมนูญ? นี่เป็นเรื่องตลก พอประชาชนรณรงค์จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ท่านกลับถามว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศเห็นด้วยหรือเปล่า
3. พอจะกล่าวได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนร่างเอง และวัตถุประสงค์รัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การสืบทอดอำนาจของ คสช. รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาให้แก้ไขไม่ได้ในกระบวนการปกติ ดังนั้น ไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะบอกให้ประชาชนแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่เขียนไว้ เพราะรู้ว่า ถ้าเดินตามแก้ไขตามกระบวนการนั้นจะทำไม่สำเร็จ นี่คือรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อให้พวกเขาสืบทอดอำนาจได้ โดยไม่ต้องฟังเสียงประชาชน
ประเด็นสุดท้ายที่อยากฝากไว้ ก็คือการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าท่านไม่เอาด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้น ผมจึงอยากถามไปถึงพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคที่ชูนโยบายหาเสียงให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสามารถผลักดันให้เรื่องนี้เข้าเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลได้ จะว่าอย่างไร จะมีท่าทีอย่างไรต่อไป? เมื่อชัดเจนแล้วว่าผู้นำของฝ่ายรัฐบาลที่ท่านเข้าร่วมด้วยนั้น ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ”