สานต่อชิมช้อปใช้ ผุดโครงการ ‘ร้อยเดียว เที่ยวทั่วไทย’ งบ 116 ล้านบาท
สานต่อชิมช้อปใช้ ผุดโครงการ ‘ร้อยเดียว เที่ยวทั่วไทย’ งบ 116 ล้านบาท
ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย – วันที่ 1 ตุลาคม ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินการโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ถึงเวลาทัวร์ ให้ทั่วไทย” จำนวน 2 มาตรการ ภายใต้วงเงิน 116,000,000 บาท ดังนี้
1. มาตรการส่งสริมการท่องเที่ยว “ร้อยเดียว เที่ยวทั่วไทย”
ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ที่พัก สายการบิน สปา แหล่งท่องเที่ยว และ สมาคมต่าง ๆ เพื่อซื้อแพ็คเกจในราคาพิเศษ เพื่อมานำเสนอขายในราคา 100 บาท จำนวน 10,000 รายการ/ต่อรอบการจัดกิจกรรม รวมทั้งหมด 40,000 รายการ
ผู้สนใจสามารถลงทะบียนเพื่อร่วมซื้อแพ็คเกจทาง official line ของ ททท. เพื่อรับสิทธิ์ใน link สู่หน้าการซื้อ package โดยจะสามารถซื้อได้คนละ 1 รายการเท่านั้น โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย Gen X Gen Y และกลุ่มผู้มีกำลังการใช้จ่ายในระดับปานกลาง ค่าใช้จ่ายจำนวนเงินทั้งสิ้น 63,500,000 บาท
2. มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยววันธรรมดา ราคา SHOCK โลก”
ผ่านการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรกลุ่มที่ให้บริการสินค้าทางการท่องเที่ยวกลุ่มหรูหรา (Luxury) ได้แก่ โรงแรมที่พัก บริษัทนำเที่ยว สายการบิน แบรนด์สินค้าชั้นนำ ศูนย์การค้า สปา โรงพยาบาล ร้านอาหาร ร้านจิลเวลรี่ สวนสนุกและบริการต่าง ๆ โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในราคาพิเศษสุด (Sales Promotion) ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์และโปรแกรมบริการพิเศษต่าง ๆ ให้กับ นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา ผ่านจัดทำ Mini Site เว็บไซต์ และ Mobile Platform และกลไกการกระตุ้นการตลาดผ่าน Online Campaign และการประชาสัมพันธ์โครงการให้ทั่วถึง ค่าใช้จ่ายจำนวนเงินทั้งสิ้น 52,500,000 บาท
“ด้วยในปีงบประมาณ พ.ศ 2562 ททท. กำหนดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย” ในช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม 2562 โดยร่วมกับหน่วยงานในภาครัฐและภาคเอกชน เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ตลอดทั้งกลุ่มธนาคารในประเทศไทย สมาคม สมาพันธ์ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสายการบิน ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และวิสาหกิจชุมชน ในการกระตุ้นการเดินทางและใช้จ่ายให้เกิดขึ้นอย่างถ้วนทั่วทุกพื้นที่และทุกภาคส่วนธุรกิจให้มากที่สุด รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมและขนาดเล็ก ได้เพิ่มศักยภาพและยกระดับการบริหารธุรกิจ
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและขับเคลื่อนการเพิ่มรายได้ของประเทศ” -ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี