คมนาคมผุดแผนสกัดฝุ่นPM2.5 จ่อขึ้นภาษีรถควันดำ – สั่งโครงการก่อสร้างติดสเปรย์น้ำ
(วันนี้ 1 ต.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ระบุถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ว่าได้มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อโดยแบ่งเป็น 3 เรื่องคือ เรื่องรถ ก่อสร้าง และระบบขนส่งสาธารณะ
เรื่องแรกคือเรื่องรถนั้น มีการเตรียมหารือเรื่องการนำมาตรการด้านภาษีมาใช้กับรถที่ก่อมลพิษ เช่น รถที่ปล่อยควันดำหรือมีเกณฑ์ควันดำเกินมาตรฐาน จะต้องถูกเก็บภาษีในอัตราสูงกว่ารถปกติที่ไม่ก่อมลพิษ และในทางกลับกันก็จะมีการลดภาษี หรือลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนให้กับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน ทางกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะต้องตรวจสอบสภาพรถขนส่งสาธารณะและควันดำ ให้เข้มงวดมากขึ้น และหากรถคันใดไม่ผ่านเกณฑ์ จะต้องสั่งห้ามวิ่งบริการเด็ดขาดจนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขให้ได้มาตรฐาน
โดยขณะนี้ขบ. จะตรวจสอบสภาพรถและดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารบนถนนสายหลักและสายรองใน กทม.และปริมณฑล เดือนละไม่น้อยกว่า 16 วัน พร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บก.จร. กทม.กรมควบคุมมลพิษ และผู้ประกอบการ ในการตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร
พร้อมทั้งอาจมีการปรับเวลาเดินรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจร และการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน โดยจะสามารถเดินรถได้หลังเวลา 24.00 -04.00 น. ทั้งนี้ จะต้องมีการสื่อสารกับผู้ประกอบการที่ใช้รถบรรทุก 10 ล้อและดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทั้ง กรมทางหลวงชนบท (ทช.) จะขอความร่วมมือกับ บก.จร.และตำรวจจราจรในพื้นที่เพื่อกวดขันและเข้มงวดไม่ให้มีการจอดรถบนพื้นผิวถนนที่จราจรแออัด เช่น ถนนราชพฤกษ์ ถนนกัลปพฤกษ์ โดยที่ผ่านมา ทช.ได้มีการประสานงานกับตำรวจจราจรมาโดยตลอด ถึงการห้ามจอดรถบริเวณห้ามจอด
อีกทั้ง ขบ.จะเพิ่มจุดบริการนอกสถานที่ในเวลาราชการ เพื่อให้บริการตรวจสภาพและดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถ บริเวณ สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑล สถานีขนส่งสินค้าร่มเกล้า และสถานีขนส่งสินค้าคลองหลวง
นอกจากนี้ ในเรื่องระบบขนส่งสาธารณะนั้น จะมีการออกนโยบายให้ข้าราชการและพนักงานที่จำเป็นต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ นั้นหลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะแทน เช่น รถไฟ รถทัวร์ เป็นต้น
มาตรการระยะกลางและระยะยาวนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ เข้าด้วยกันคือ ล้อ-ราง-เรือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และดึงดูดให้ประชาชนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้นอีกด้วย
ด้านกรมทางหลวง (ทล.) นั้น มีแผนในการติดตั้งระบบปล่อยฝอยละอองน้ำความดันสูง บริเวณด่านเก็บเงินบนทางหลวงพิเศษ อีก 7 แห่ง ได้แก่ บริเวณหลังคาคลุมตู้เก็บค่าผ่านทาง (Canopy) ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบางปะกง ,หนองขาม 1 ,หนองขาม 3 ,ทับช้าง 1 (ช่องทางที่1-7) ,ทับช้าง 2 (ช่องทางที่1-7) ,โป่ง 3 และพัทยา (ขาออก) โดยคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จภายในต้นเดือน ต.ค. นี้
เรื่องของการก่อสร้างนั้น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการอย่างทล. หรือ ทช. ประสานงานกับผู้รับเหมาให้ติดตั้งจัดสเปรย์น้ำในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง ส่วนทช. นั้น จะกำหนดมาตรการลดฝุ่น โดยหากพบว่าการก่อสร้างทำให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจนสังเกตได้ ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 วัน จะพิจารณาให้หยุดกิจกรรมก่อสร้าง เพื่อสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงและพิจารณาดำเนินการแก้ไข และขอให้หน่วยงานของผู้ว่าจ้างจัดทำบัญชีเครื่องจักร ระบุประเภทรถและหมายเลขทะเบียนของแต่ละโครงการ เพื่อพร้อมในการประสานสำนักงานขนส่งจังหวัดในการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความสมบูรณ์ของเครื่องจักรเพื่อลดมลภาวะ
ที่มา ข่าวสด