‘ธนาธร-สุดารัตน์’ กระซวกลุงตู่ ‘100วันตั้งรัฐบาลไม่ได้ เห็นหัวประชาชนบ้าง’
‘ธนาธร-สุดารัตน์’ กระซวกลุงตู่ ‘100วันตั้งรัฐบาลไม่ได้ เห็นหัวประชาชนบ้าง’ :ข่าวการเมือง
การจัดตั้งรัฐบาล – นับตั้งแต่มีการเลือกตั้ง 24 มี.ค. จนกระทั่งโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเก้าอี้นายกฯสมัยที่ 2 จนถึงวันนี้ 2 ก.ค. รู้หรือไม่ว่าเรายังไม่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มาบริหารประเทศ
ท่ามกลางการเมืองที่เหมือนจะสงบนิ่งเรียบร้อย แต่ในภายในพรรคร่วมรัฐบาลเองกลับวุ่นวายร้อนระอุ เป็นศึกภายในเพื่อแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีฯกระทรวงต่าง ๆ ที่เห็นรอยแตกร้าวชัดที่สุดคือ ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มสามมิตร กับกระทรวงพลังงาน จนมีการขู่จะยื่นญัตติขับไล่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ พ้นเลขาธิการพรรค
ความไม่ลงตัวลงรอยถึงขนาดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาต้องออกมาส่งสารถึงประชาชนขอโทษแทนพรรคพลังประชารัฐ เรื่องประเด็นปัญหาขัดแย้งเก้าอี้ ซ้ำยังทิ้งท้ายว่าหากวุ่นวายไม่เลิก อาจจะนำไปสู่การแก้ปัญหาแบบเดิม
เรื่องนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่าน Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า
[ผ่านเลือกตั้งจะครบ 100 วันยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ แถมขู่รัฐประหารตัวเอง]
.
เมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาขู่พรรคร่วมรัฐบาลที่เลือกตัวเองเป็นนายกฯ กับมือ ว่าจะ “ทำแบบเดิม” ถ้านักการเมืองยังทะเลาะกันไม่จบ แย่งเก้าอี้กันไม่ลงตัว
.
ผมอ่านข่าวนี้ด้วยความรู้สึกวิตกกังวลแทนอนาคตประเทศไทย ด้วยเหตุผล 2 ประการ
.
1. ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 97 วัน ประเทศไทยยังไม่มีรัฐบาลเป็นตัวเป็นตน ทั้งที่มีปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอการแก้ไขมากมายทั้งประเทศ ที่ชัดเจนมีแต่นายกฯ คนเดิมชื่อพลเอกประยุทธ์ ซึ่งออกมาข่มขู่ทำนองว่าจะรัฐประหารตัวเอง คุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เพื่อตัดปัญหาการแก่งแย่งตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีอันหมายถึงผลประโยชน์มหาศาลของพรรคพวกตนเอง
.
เท่านั้นยังไม่พอ หัวหน้า คสช. ยังฉวยโอกาสโยนบาปให้นักการเมือง ด้วยการสร้างวาทกรรมทำนองว่าการเลือกตั้งมีแต่สร้างความวุ่นวาย ส่วนการรัฐประหารเป็นทางออกทางลัดที่ช่วยเหลือประเทศได้ ทั้งๆ ที่ภาวะที่พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในสภาพพิกลพิการ ไร้เสถียรภาพ แก่งแย่งผลประโยชน์กันไม่จบนั้น เกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ที่วางกฎเกณฑ์ไว้อย่างจงใจเอื้อให้เกิดรัฐบาลหลายพรรคอันอ่อนแอ ไร้เสถียรภาพ และจำใจต้องเลือกร่วมรัฐบาลกับหัวหน้า คสช. เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
.
ผมเชื่อว่าผ่านไป 5 ปีภายใต้ คสช. ประชาชนชาวไทยรู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่า รัฐประหารไม่ใช่ทางออก มีแต่จะพาประเทศถลำลึกในวังวนปัญหา แต่นายกฯ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วหลังผ่านการเลือกตั้ง ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพูดจาบ่อนทำลายระบบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งเช่นนี้
.
2. อย่าลืมว่า แม้พลเอกประยุทธ์จะโยนปัญหาตั้งรัฐบาลไม่ได้ไปให้นักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล แต่คนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากการตั้งรัฐบาลไม่ได้เสียที ก็คือตัวพลเอกประยุทธ์และรัฐบาล คสช. นั่นเอง เพราะตราบใดที่ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ พลเอกประยุทธ์ก็จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ และรัฐบาล คสช. ยังมีอำนาจเต็มทุกประการ
.
ช่วยกันจับตาดูนะครับว่าตอนนี้ดูเหมือนรัฐบาลคสช.กำลังเร่ง “ทิ้งทวนโครงการหมื่นล้านแสนล้าน” อย่างมูมมามในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อตอบแทนกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจโดยไม่สนใจผลประโยชน์ของสาธารณะและประชาชน
.
พูดให้ชัด กระบวนการสืบทอดอำนาจคือปัญหา
“ประยุทธ์คือปัญหา”
หยุดโยนบาปให้กับนักการเมือง หยุดยกตนเหนือนักการเมืองที่มาจากประชาชน
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan แห่งพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์ในทำนองเดียวกันว่า
เลือกตั้งมา 3 เดือน
แต่ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แย่งเก้าอี้กันยังไม่จบ
เป็นปัญหาแบ่งผลประโยชน์ของพวกตัวเองล้วนๆ โดยไม่มีใครพูดถึงผลประโยชน์ของประชาชนเลย
พอแบ่งผลประโยชน์กันไม่ลงตัว
นายกหน้าเก่า เลยขู่จะยึดอำนาจซ้ำ
#ประเทศเป็นสมบัติส่วนตัวของลุงหรือ
#เห็นหัวประชาชนบ้าง
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ประชาชนหวังจะเห็นมาที่สุดคือการเดินหน้าทำงานแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน แทนที่จะแก่แย่งชิงผลประโยชน์กันเอง เพราะเศรษฐกิจไทยตอนนี้ก็ตกต่ำหนัก คนหาเช้ากินค่ำก็หวังจะให้รัฐบาลช่วยพยุงให้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง