ข่าวการเมือง

พลเอกประยุทธ์แนะนำหนังสือเล่มใหม่ “อิศปปกรณัม” หรือรู้จักใน “นิทานอีสป”

พลเอกประยุทธ์แนะนำหนังสือเล่มใหม่ “อิศปปกรณัม” หรือรู้จักใน “นิทานอีสป” : ข่าวการเมือง

 

วันที่ 11 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอแนะนำหนังสือน่าอ่าน อิศปปกรณัม วรรณกรรมแปลจากตะวันตกยุคแรกของไทย

 

อิศปปกรณัม หรือที่รู้จักแพร่หลายในชื่อ นิทานอีสป เป็นนิทานเล่าของนักเล่าเรื่องชาวกรีกโบราณ เมื่อ 620 ปีก่อนคริสต์ศักราช ใช้ตัวละครเป็นสัตว์ กสิกร และเทพเจ้า เพื่อเล่าความเปรียบสุภาษิตสอนใจ แพร่หลายในประเทศไทยมาตั้งแต่รัชกาลที่ 3 สำคัญที่สุดคือการถวายพระเกียรติให้กับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงพระราชนิพนธ์แปลและพระราชนิพนธ์โคลงสุภาษิตร่วมกับนักแปลในรัชสมัยนั้น 4 เรื่อง เช่น ราชสีห์กับหนู, สุนัขป่ากับลูกแกะ, กระต่ายกับเต่า

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับหนังสือดังกล่าวเป็นวรรณกรรมประวัติศาสตร์ของไทยที่มีความสำคัญ และกระทรวงวัฒนธรรมได้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบชำระประวัติศาสตร์ ซึ่งพิจารณาแล้วเป็นหนังสือที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม อักษรศาสตร์ และวรรณคดี และได้นำเรื่องอิศปปกรณัมมาปรับเป็นภาพปักพระเมรุบนท้องสนามหลวง รัตนโกสินทรศก 108 และหนังสือนี้ได้รับความนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 หลายอย่างของไทยสอดคล้องกับนิทานอีสป จึงอยากให้เยาวชนได้อ่าน จะได้รู้ว่าประวัติศาสตร์ของไทยเป็นมาอย่างไร และมีหนังสือของไทยอีกหนึ่งเล่มที่จะแนะนำคือ หนังสือเศรษฐีมั่งมีทรัพย์กับห่าน Swan ซึ่งจะเป็นสุภาษิตสอนใจ

 

อีสปคือใคร

อีสป เป็นชื่อของทาสชายคนนึง ในยุคราวปี 620-560 ก่อน คริสตศักราช เกิดในเมืองฟรีเยียในดินแดนที่ปัจจุบันเรียกว่าเอเซียไมเนอร์ มีสมญาว่า Ethiop(เอธิออป) ซึ่งมีความหมายว่าตัวดำ แต่ชาวยุโรปเรียกเสียงเพี้ยนไปเป็น Aesop (อีสป) (ชื่อเอธิออปเชื่อว่ามาจากชื่อประเทศเอธิโอเปีย ต่อมาเปลี่ยนเป็น อะบิสซีเนีย)

 

ทำไมถึงเรียกนิทานอีสป

อีสป เป็นนักเล่านิทานชาวกรีกโบราณ แม้ไม่มีงานเขียนของเขาเหลือรอดมาเลย แต่นิทานจำนวนมากซึ่งถือว่าเป็นงานของเขาถูกรวบรวมตลอดหลายศตวรรษในหลายภาษา ดำรงอยู่มาถึงปัจจุบัน นิทานหลายเรื่องใช้สัตว์หรือวัตถุไม่ใช่สัตว์ที่สามารถพูด แก้ไขปัญหาและโดยทั่วไปมีคุณสมบัติอย่างมนุษย์

 

อีสปเล่านิทานโดยใช้สัตว์เป็นสัญาณบอกความจริงเกี่ยวกับความอยุติธรรมทางการเมืองให้ชาวเมืองรู้ การกระทำของเขาได้จุดไฟแห่งความโกรธแค้น ให้ไหม้โหมกระหน่ำในหัวใจของนักการเมืองอย่างหนัก นักการเมืองเหล่านี้จึงคิดแก้แค้นอีสป โดยการแอบเอาขันทองศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหารเทพอะพอลโลไปใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระของอีสป แล้วกล่าวหาว่าเขาเป็นขโมย ในที่สุดอีสปจึงถูกตั้งข้อหาว่ากระทำการลบหลู่และทำลายชาวเดลฟิอย่างร้ายแรง อีกทั้งเป็นคนป่าเถื่อนและดุร้าย อีสปถูกตัดสินประหารชีวิตโดยถูกโยนลงมาจากหน้าผาสูงจนถึงแก่ความตาย

 

 

อ้างอิงจาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button