ตามคาด กัมพูชาฟ้อง UN อ้างไทยโจมตีก่อน-ไล่คนเขมร วอนหยุดทำตัวก้าวร้าว

เป็นไปตามคาด! กัมพูชาฟ้องเวทีโลก กล่าวหาไทยคุกคามสันติภาพ ปมขัดแย้งชายแดน วอน UN-อาเซียน-ผู้นำทั่วโลก ช่วยลดความตึงเครียด กดดันไทยหยุดทำร้ายพลเมืองเขมร
ปรัก สุคน (Prak Sokhonn) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งกัมพูชา ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 เมื่อวันเสาร์ ณ นครนิวยอร์ก (27 กันยายน 2568) กล่าวหาอย่างรุนแรงว่า สันติภาพที่กัมพูชาได้มาอย่างยากลำบากกำลังถูกคุกคามจากข้อพิพาทชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหา
รองนายกฯ ปรัก สุคน เริ่มต้นด้วยการย้ำเตือนถึงประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดของกัมพูชาที่ต้องผ่านสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มานานหลายทศวรรษ แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของอดีตพระมหากษัตริย์ นโรดม สีหนุ และวิสัยทัศน์ของสมเด็จฯ ฮุน เซน ผ่านนโยบายชนะ-ชนะ ทำให้สงครามที่ยาวนาน 30 ปีสิ้นสุดลงได้โดยไม่มีการยิงแม้แต่นัดเดียว
“ณ วันนี้ ผมมีความเจ็บปวดอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ว่า สันติภาพในประเทศของเรา…กำลังถูกคุกคาม ไม่ใช่จากการแตกแยกภายในดังเช่นอดีต แต่จากข้อพิพาทชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน”
นอกจากนี้ยังมีกล่าวถึงข้อตกลงหยุดยิงซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนสำคัญในการยุติการปะทะด้วยอาวุธ แต่ก็น่าเสียดายที่การกระทำเพียงฝ่ายเดียวของประเทศเพื่อนบ้านยังคงดำเนินต่อไป มีการกระทำที่ก้าวร้าว ทั้งขับไล่พลเมืองกัมพูชาออก, ข่มขู่ที่จะใช้กฎหมายภายในประเทศกับพลเมืองกัมพูชา, ขับไล่ชาวกัมพูชาหลายร้อยครอบครัวออกจากหมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยมานานหลายสิบปี
รวมทั้งอ้างว่าฝ่ายไทยการละเมิดข้อตกลง โดยการเข้าครอบครองดินแดนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ปักปันเขตแดน ถือเป็นการไม่เคารพต่อเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งการกระทำดังกล่าวละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา

ล่าสุด ปรัก สุคนด ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 27 กันยายน 2568 ที่มีกระแสข่าวว่ามีการโจมตีใกล้กับพื้นที่อ่อนไหว การกล่าวหาว่ากองกำลังกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ซึ่งเขายืนยันว่า “กองทัพกัมพูชาไม่ได้ยิง และได้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด” เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อสันติภาพ
ในช่วงท้ายของสุนทรพจน์ กัมพูชาได้เรียกร้องและเสนอแนวทางต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ ขอให้มีการเจรจาและแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธี โดยเคารพต่อเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง, ข้อตกลงทวิภาคี, กฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติและอาเซียนอย่างจริงใจ
พร้อมทั้งร้องขอการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากประธานอาเซียน, ประเทศสมาชิกอาเซียน, เลขาธิการสหประชาชาติ และผู้นำทั่วโลก เพื่อช่วยลดความตึงเครียดและป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีก และ สนับสนุนการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคง โดยการเพิ่มจำนวนสมาชิกไม่ถาวร เพื่อสะท้อนถึงโลกในยุคปัจจุบัน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภารกิจรักษาสันติภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ขัดแย้ง เพื่อให้รัฐขนาดเล็กสามารถเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ยและการป้องกันได้อย่างเท่าเทียม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กองทัพภาคที่ 2 แถลงสรุปสถานการณ์ตึงเครียด ช่องอานม้า กัมพูชา เปิดฉากยั่วยุก่อน
- กัมพูชา กล่าวหา ไทย เปิดฉากยิงพื้นที่อานม้า โอดอดกลั้น ไม่ตอบโต้แต่อย่างใด
- กัมพูชา ยืนยัน ไม่ได้ทิ้งศพทหารนับร้อยในป่า ประณามคนปล่อยข่าว ดูหมิ่นกองทัพ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: