เมื่อชีวิตเจอเรื่องไม่คาดฝันที่ต้องใช้เงินก้อนอย่างเร่งด่วน รถยนต์ที่คุณมีอยู่สามารถเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยคุณได้ การจำนำทะเบียนรถจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับคนมีรถ เพราะช่วยให้เข้าถึงเงินทุนได้โดยไม่ต้องขายรถทิ้งไป
อย่างไรก็ตาม หลายคนต้องมาเจอกับคำถามสำคัญที่ว่าควรเลือกสินเชื่อแบบ “โอนเล่ม” หรือ “ไม่โอนเล่ม” ดี? ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีข้อดีและเงื่อนไขที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน บทความนี้จะเปรียบเทียบให้เห็นทุกแง่มุม เพื่อให้คุณเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตัวเองได้อย่างมั่นใจ
ทำความเข้าใจจำนำทะเบียนรถแบบโอนเล่ม และไม่โอนเล่ม
ก่อนจะเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจหลักการพื้นฐานของ จำนำทะเบียนรถ ทั้งสองรูปแบบนี้ก่อน เพราะแม้จะได้เงินก้อนเหมือนกัน แต่ขั้นตอนและผลกระทบต่อกรรมสิทธิ์รถนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
จำนำทะเบียนรถแบบโอนเล่มคืออะไร?
วิธีการนี้คือการขอสินเชื่อที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางเอกสาร โดยคุณจะต้องเดินทางไปที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการ “โอนกรรมสิทธิ์” ของรถยนต์ให้เป็นชื่อของสถาบันการเงิน หรือบริษัทสินเชื่อนั้นๆ ชั่วคราว แม้คุณจะยังสามารถใช้งานรถได้ตามปกติ แต่ในทางกฎหมายแล้ว สถาบันการเงินจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถจนกว่าคุณจะชำระหนี้คืนครบถ้วนตามสัญญา
จำนำทะเบียนรถแบบไม่โอนเล่ม คืออะไร?
นี่คือรูปแบบการจำนำทะเบียนรถที่ง่าย และตรงไปตรงมามากกว่า โดยคุณเพียงแค่นำ “เล่มทะเบียนรถตัวจริง” ไปมอบให้กับสถาบันการเงินเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเท่านั้น ชื่อผู้ครอบครองรถในเล่มทะเบียนจะยังคงเป็นชื่อของคุณเหมือนเดิมทุกประการ วิธีนี้ช่วยลดขั้นตอนทางเอกสารที่ยุ่งยาก และไม่ต้องเดินทางไปที่กรมขนส่ง ทำให้กระบวนการทั้งหมดรวดเร็วกว่ามาก
เปิดตารางเทียบชัดๆ ข้อดี-ข้อเสีย โอนเล่ม vs ไม่โอนเล่ม
เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างได้ทันที ลองมาดูการเปรียบเทียบคุณสมบัติที่สำคัญของ จำนำทะเบียนรถทั้งสองรูปแบบในตารางด้านล่างนี้
| คุณสมบัติ | จำนำทะเบียนรถแบบโอนเล่ม | จำนำทะเบียนรถแบบไม่โอนเล่ม |
| กรรมสิทธิ์รถ | ต้องโอนเป็นชื่อของสถาบันการเงิน | ยังเป็นชื่อของคุณ 100% |
| ความเร็วอนุมัติ | ช้ากว่า เพราะมีขั้นตอนที่กรมขนส่ง | รวดเร็ว อนุมัติไว ไม่ต้องรอ |
| ค่าใช้จ่ายแฝง | มีค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ | ไม่มีค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ |
| ความซับซ้อน | มีขั้นตอนเยอะ ต้องเดินทางไปราชการ | ขั้นตอนน้อยกว่า สะดวกสบาย |
| ประเภทดอกเบี้ย | ส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยคงที่ | ส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยลดต้นลดดอก |
เรื่องดอกเบี้ยที่ต้องรู้ ดอกเบี้ยคงที่ VS ลดต้นลดดอก
รูปแบบของดอกเบี้ยส่งผลอย่างมากต่อยอดชำระทั้งหมด การทำความเข้าใจระบบการคิดดอกเบี้ยทั้งสองแบบจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการตัดสินใจทางการเงินที่ชาญฉลาด
ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) มักเจอในแบบโอนเล่ม
ดอกเบี้ยรูปแบบนี้จะถูกคำนวณจากเงินต้นทั้งก้อนตั้งแต่วันแรกที่ทำสัญญา และจะคงที่ไปตลอดอายุสัญญา หมายความว่ายอดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนจะเท่าเดิมเสมอแม้ว่าคุณจะผ่อนเงินต้นไปมากแล้วก็ตาม ทำให้การจ่ายโปะเพื่อลดดอกเบี้ยทำได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) ข้อดีของแบบไม่โอนเล่ม
เป็นวิธีการคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรมและยืดหยุ่นกว่า โดยดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจาก “เงินต้นที่ยังคงเหลืออยู่” ในแต่ละงวดเท่านั้น ข้อดีคือทุกครั้งที่คุณชำระค่างวด เงินต้นจะลดลงและดอกเบี้ยสำหรับงวดถัดไปก็จะลดลงตามไปด้วย หากคุณจ่ายเกินค่างวด (โปะ) ก็จะยิ่งช่วยให้เงินต้นลดเร็วขึ้นและประหยัดค่าดอกเบี้ยในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
สรุปแล้ว…เลือกจำนำทะเบียนรถแบบไหนให้เหมาะกับเรา?
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมด การตัดสินใจเลือกระหว่างสองรูปแบบนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของเงินติดล้อ ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังตัดสินใจไว้ว่า
- หากความจำเป็นเร่งด่วนคือปัจจัยหลัก : ผู้ที่ต้องการเงินสดไปใช้หมุนเวียนทันที ควรพิจารณาแบบ “ไม่โอนเล่ม” เพราะลดขั้นตอนที่ต้องรอคอยออกไปได้มาก
- หากกังวลเรื่องความซับซ้อน : สำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินทางไปกรมขนส่ง หรือไม่ต้องการจัดการเอกสารที่ยุ่งยาก รูปแบบ “ไม่โอนเล่ม” จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
- หากต้องการความยืดหยุ่นในการชำระคืน : ผู้ที่วางแผนจะโปะหนี้เพื่อปิดบัญชีให้เร็วขึ้น ควรเลือกสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ซึ่งส่วนใหญ่คือแบบไม่โอนเล่ม
สรุป เลือกสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่ใช่ เพิ่มสภาพคล่องอย่างสบายใจ
ท้ายที่สุดแล้ว การจำนำทะเบียนรถที่ดีที่สุดคือรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของคุณมากที่สุด ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับความเร็ว และความเรียบง่ายของวิธีไม่โอนเล่ม หรือยอมรับขั้นตอนที่มากกว่าเพื่อโอกาสในวงเงินที่สูงขึ้นของวิธีโอนเล่ม การตัดสินใจโดยมีข้อมูลครบถ้วนคือหัวใจสำคัญ การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มสภาพคล่องได้อย่างสบายใจ และก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
