การเลือกซื้อประกันรถยนต์อาจเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับใครหลายคน เพราะมีให้เลือกมากมายจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี แต่การมีประกันรถยนต์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ วันนี้เราจึงขอแชร์วิธีเลือกประกันรถยนต์ให้ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุดมาฝากกัน
4 เทคนิคสำคัญในการเลือกประกันรถยนต์
การมีรถยนต์สักคัน แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับความเสี่ยงบนท้องถนน ประกันรถยนต์จึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อช่วยลดภาระทางการเงินเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เราจึงรวบรวม 4 เทคนิคเด็ดที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์
1. เลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับการใช้รถ
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือสไตล์การขับขี่และการใช้งานรถของคุณ เพราะประกันรถยนต์แต่ละประเภทก็มีระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณเลือกได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณ
ประกันชั้น 1
เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด ครอบคลุมทั้งกรณีรถชนรถและรถชนสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นเสาไฟฟ้า กำแพง หรือฟุตบาท รวมถึงกรณีรถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม จึงเหมาะกับรถใหม่ป้ายแดง หรือคนที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ขับขี่ เพราะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่า
ประกันชั้น 2+
มีความคุ้มครองใกล้เคียงประกันรถยนต์ ชั้น 1 แต่จะคุ้มครองเฉพาะกรณีที่รถชนกับรถเท่านั้น โดยต้องมีคู่กรณีที่สามารถระบุตัวตนได้ จึงเหมาะกับผู้ที่ขับขี่รถคล่องและใช้งานรถเป็นประจำ แต่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน
ประกันชั้น 2
ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ ชั้น 2+ แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถของเรา เหมาะสำหรับรถที่มีอายุมาก หรือใช้งานไม่บ่อย แต่กังวลเรื่องการถูกโจรกรรมหรือรถหาย
ประกันชั้น 3+
ให้ความคุ้มครองคล้ายประกันรถยนต์ ชั้น 2+ แต่ไม่ครอบคลุมกรณีรถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม จึงเหมาะกับคนที่ขับขี่รถคล่อง มีที่จอดรถปลอดภัย และไม่ค่อยกังวลเรื่องรถหายหรือถูกโจรกรรม
ประกันชั้น 3
เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองต่ำสุด โดยจะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถเรา เหมาะสำหรับรถที่มีอายุมาก หรือใช้งานน้อยมาก ๆ แต่ต้องการความอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุ
2. เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือและมั่นคง
ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึงความมั่นคงทางการเงินและความสามารถในการจ่ายเคลมเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุจริง โดยข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) หรือในเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เข้ามาช่วยทำให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกประกันรถยนต์เกิดความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลของบริษัทประกันภัย รวมทั้งยังสามารถดูงบการเงินและผลประกอบการได้อีกด้วย
3. บริการดี เคลมง่าย ไม่ยุ่งยาก
นอกจากการเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือและมั่นคงแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปคือบริการหลังการขายของบริษัทประกันภัย เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น การได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด
- มีอู่ซ่อมรถ และศูนย์ซ่อมในเครือที่ครอบคลุมและใกล้บ้าน ช่วยให้คุณนำรถเข้าซ่อมได้สะดวก
- มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย ติดต่อได้ง่าย ตลอด 24 ชั่วโมง
- เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและประสานงานได้รวดเร็วเมื่อเกิดเหตุ
- อ่าน รีวิว จากผู้ใช้งานจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ จะช่วยให้เห็นภาพรวมของบริการ
4. เปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจ
ก่อนจะตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ทุกครั้ง ควรเปรียบเทียบรายละเอียดจากหลาย ๆ บริษัท เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องต่อไปนี้
- ความคุ้มครองและทุนประกัน ว่าตรงตามความต้องการหรือไม่ มีข้อยกเว้นอะไรบ้าง
- ค่าเบี้ยประกัน ว่าอยู่ในงบประมาณที่คุณตั้งไว้หรือเปล่า
- โปรโมชัน หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น ส่วนลดค่าเบี้ย หรือของแถมอื่น ๆ
- บริการเสริม ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย เช่น บริการรถใช้ระหว่างซ่อม หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง
ประกันติดโล่ โดยเงินติดล้อ ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ทริคที่สำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ ควรนำข้อมูลประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน โปรโมชัน หรือบริการเสริมอื่น ๆ จากหลายบริษัทมาเปรียบเทียบให้ได้ข้อเสนอที่คุ้มค่ามากที่สุด หลังจากนั้นคุณจะพบกับประกันรถยนต์ที่ถูกใจและตอบโจทย์มากที่สุด”
สรุปบทความ
การเลือกประกันรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตาม 4 เทคนิคสำคัญนี้ ทั้งการเลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับการใช้งานรถ เลือกบริษัทที่มั่นคง มีบริการดี และเปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจ ก็จะช่วยให้คุณได้ประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุดสำหรับการเดินทางบนท้องถนน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
