ข่าว

“ปารเมศ” เสนอ 4 ข้อ แก้ปัญหาปมถนนทรุด จี้รัฐบาล สอบมาตรฐานก่อสร้าง

สส.ปารเมศ จี้รัฐบาลสอบมาตรฐานก่อสร้างเหตุถนนทรุด ชี้เป็นเหตุการณ์ “ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย” พร้อมเสนอ 4 ข้อแก้ปัญหาเร่งด่วน

25 กันยายน 2568 เวลา 14.30 น. นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน พร้อมด้วย ศ.อมร พิมานมาศ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบและนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และคณะ แถลงข่าวกรณีถนนสามเสน บริเวณหน้าคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เกิดการทรุดตัวอย่างรุนแรง

นายปารเมศ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็น สส.ในพื้นที่ที่เกิดเหตุถนนสามเสนทรุดตัวบริเวณหน้าคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และสถานีตำรวจสามเสน สถานการณ์ล่าสุดในวันนี้มีดินทรุดตัวหลายครั้ง ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ช่วงเช้า ซึ่งเป็นความโชคดีที่ไม่มีผู้สูญเสียใด ๆ แต่สถานการณ์ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ ยังมีดินสไลด์อยู่อย่างต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่หน้างานกำลังเร่งแก้ไขปัญหา และอยู่ระหว่างควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดความเสี่ยงไปถึงประชาชนในพื้นที่ อาทิ ชุมชนสวนอ้อยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

เบื้องต้นได้ลงพื้นที่และประสานงานเรื่อง ไฟฟ้า น้ำประปา การอพยพ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในเรื่องมาตรฐานการก่อสร้าง รวมถึงสาเหตุที่แท้จริงโดยเร็ว เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งต้องหาคำตอบว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ตนได้หารือที่ประชุมโดยขอให้ตรวจสอบสถานีและเส้นทางอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ ทั้งสายสีม่วง สายสีส้ม ที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ หากมีฝนตกลงมาอีกสถานการณ์อาจเลวร้ายลง

ทั้งนี้ ขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรี รมว.คมนาคม ที่กำกับดูแลการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวมทั้งขอฝากเรื่องระบบเซลบอร์ดแคส เพราะตั้งแต่เมื่อวานนี้ ประชาชนในพื้นที่ได้สะท้อนมาว่าข้อมูลที่แม่นยำและถูกต้องนั้นต้องฟังจากที่ใด เราได้ผ่านโศกนาฏกรรม รวมถึงอุบัติเหตุและภัยพิบัติทางธรรมชาติมาหลายครั้ง จึงต้องขอเร่งรัดอีกครั้งว่านี่คือหลักฐานชัดเจนว่าระบบเซลบอร์ดแคสเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ต้องทำทั้งประเทศ ทำให้ระบบเซลบอร์ดแคสมีความแม่นยำและรวดเร็วเพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ศ.อมร กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างฯ เนื่องจากเหตุการณ์การพังถล่มของโครงสร้างสาธารณะหลายครั้งที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ถนนทรุดนั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์ถนนทรุดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นมาในประเทศไทย และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นอกเหนือจากการจราจรที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อโครงสร้างข้างเคียง ทำให้เสาเข็มได้รับความเสียหาย และดินยังคงเคลื่อนตัวอยู่ อีกทั้งเรื่องของการซ่อมแซมที่เกิดจากการทะลักของดิน จึงขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาใน 4 ประเด็น ดังนี้

FB/ สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

1. ต้องมีการสำรวจสาเหตุที่แท้จริงโดยคณะกรรมการสอบสวนที่มีความเป็นกลางที่ประกอบด้วยบุคลากรทั้งภาคการศึกษา ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ อย่างครบถ้วน และต้องเปิดเผยผลการสอบสวนต่อสาธารณะ ให้วิศวกรทั่วไปได้ทราบถึงข้อมูลทั้งหมดเพื่อสามารถให้ความเห็นได้

2. มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 คือ พื้นถนนที่ยุบตัวลงเป็นบ่อ เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ ดินข้างเคียงอาจไหลลงมาได้ ส่วนที่ 2 คือ โครงสร้างข้างเคียงที่ได้รับความเสียหายจากระบบฐานราก มีสภาพไม่มั่นคง ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ดีเช่นเดิม และส่วนที่ 3 คือ จุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์ที่เข้าไปเชื่อมต่อกับสถานีที่เกิดความเสียหายจนดินทะลักเข้าไป จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงให้ชัดเจน

3. การก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกันในโครงการอื่น ๆ จะมีมาตรการตรวจสอบ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไร ทั้งประชาชนผู้ใช้ถนน ผู้อาศัยอยู่ในแนวอาคารบ้านเรือนใกล้เคียงที่ดินอาจเกิดการทรุดตัวได้

4. การแก้ไขระเบียบกฎเกณฑ์ในการก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินในชั้นดินอ่อน ซึ่งต้องยอมรับว่ากรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ดินมีสภาพที่เคลื่อนตัวได้ง่าย และมีน้ำใต้ดิน รวมทั้งระบบใต้ดินของกรุงเทพมหานครก็ยังมีท่อประปาซึ่งหากท่อแตกก็จะทำให้เกิดน้ำทะลักออกมาได้ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็เป็นปัจจัยที่วิศวกรที่ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างต้องทราบและตระหนักถึงตั้งแต่ต้น ต้องมีมาตรการและมาตรฐานทางวิศวกรรมที่ต้องนำมาทบทวน ทั้งนี้ จึงควรมีระบบแจ้งเตือนกรณีที่ดินเกิดการเคลื่อนตัว เช่นเดียวกับในต่างประเทศไทยที่มีอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนตัวของดินแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างความปลอดภัย สามารถปิดถนนหรืออพยพประชาชนได้ทัน

ทั้งนี้ ในส่วนของคณะ กมธ. จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงใน 4 ประเด็นดังกล่าว และนำมาจัดทำรายงานข้อเสนอเพื่อปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ เพื่อผนวกกับกรณีต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยได้มีการวางแผนปรับปรุง พ.ร.บ.ต่าง ๆ อาทิ พ.ร.บ.วิศวกร พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ร.บ.อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ซึ่งคณะ กมธ.จะถือกรณีเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการถอดบทเรียนเพื่อที่จะนำเสนอไปสู่การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button