ข่าว

พิพากษาประหารแก๊งค์ยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ศาลพิพากษาประหารชีวิตแก๊งค์ยิง น้องหยอด นักเรียนอุเทนถวาย และ ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ที่โดนลูกหลง ก่อนลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

จากกรณีที่ คนร้ายก่อเหตุยิงนายธนสรณ์ หรือ “น้องหยอด” นักเรียนมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย อายุ 19 ปี เสียชีวิต และนางสาวศิรดา หรือ “ครูเจี๊ยบ” ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกลูกหลงเสียชีวิต บริเวณหน้าธนาคารสาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. จนกลายเป็นข่าวดังเมื่อช่วงท้ายปี 2566 ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุดวันนี้ศาลศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 806 ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายชนัญชิต, นายเวชพิสิฐ, นายภัทรดนัย, นายธนาวุฒิ, นายสหัสวรรษ, นายนัฐภัทร, นายยศพล,

นายชุติวัต, นายณัฐวุฒิ, นายปณิธาน, นายปองพล, นายณัชพล, นายอิทธิศักดิ์ และ นายศุภรพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1-14 ฐานสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

“ไล่ล่าสุดขอบฟ้า” ตามรวบ “อนาวิน” มือยิงครูเจี๊ยบน้องหยอด ผบ.ต่อ ร่วมซักถาม ให้การรับสารภาพว่าเป็นมือยิงในคดีนี้
แฟ้มภาพ สืบนครบาล IDMB

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้ง 14 คน เคยเป็นหรือเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้บังอาจสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป จับกลุ่มปรึกษากันเพื่อกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยวางแผนฆ่านักศึกษาหรือผู้ที่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ทั้ง 2 สถาบันนี้มีความขัดแย้งสืบเนื่องกันมาหลาย 10 ปี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดตั้งแต่ก่อนก่อเหตุขณะก่อเหตุและหลังเกิดเหตุ ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงมาประมวลผลกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

โดยแบ่งคณะพนักงานสอบสวนแยกกันทำยากที่จะสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 14 คนมีสาเหตุโกรธเคืองกับพนักงานสอบสวนมาก่อน เชื่อว่าพนักงานสอบสวนกระทำไปตามหน้าที่ พยานหลักฐานมีน้ำหนักรับฟังได้

รับฟังได้ว่าเมื่อเดือน ก.ค. 2565 มีเหตุนักเรียนเทคโนโลยีช่างกลปทุมวันถูกยิงเสียชีวิตในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน เป็นเหตุให้กลุ่มจำเลยร่วมกันกราดยิงโดยไม่เจาะจงเพื่อเป็นการแก้แค้นสถาบันคู่อริ โดยในวันที่ 12 ส.ค. 65 จำเลยได้ประชุมวางแผนที่บ้านพักของจำเลยที่ 7 ย่านหนองจอกโดยมีจำเลยที่ 1, 4, 7, 8 ,11-13 ไปดูลาดเลายังจุดเกิดเหตุ

แบ่งหน้าที่การจัดเตรียมอาวุธปืน รถจักรยานยนต์ เบอร์โทรศัพท์เฉพาะกิจที่สำหรับก่อเหตุ โดยในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 เป็นคนใส่ชุดไรเดอร์ขับรถจักรยานยนต์ ก่อนโทรศัพท์ส่งสัญญาณให้กลุ่มจำเลยที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินและเสื้อสีครีมขี่รถจักรยานยนต์ เข้าไปกราดยิงยังจุดเกิดเหตุเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนบาดเจ็บสาหัส 3 คน และบาดเจ็บอันตรายแก่กาย 2 คน จากนั้นจำเลยทั้งหมดได้หลบหนี

จำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 จึงมีส่วนร่วมกันประชุมก่อเหตุเพื่อแก้แค้นสถาบันคู่อริโดยแบ่งหน้าที่กันชัดเจน หลังก่อเหตุได้นำพยานหลักฐานไปซุกซ่อนทำลาย คำต่อสู้ของจำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ เป็นการสมคบการ 5 คนขึ้นไปเพื่อฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ฐานซ่องโจร, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ส่วนจำเลยที่ 6, 10, 14 พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

พิพากษาว่าจำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นบทลงโทษหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 พิพากษาประหารชีวิตแต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 และให้จำเลยที่ 1-5, 7-9 ,11-13 ร่วมกันชดใช้เงินแก่มารดาของผู้เสียชีวิตจำนวน 1,677,400 บาท พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 6, 10, 14

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button