รฟม. กราบขอโทษเหตุถนนทรุด ตั้งเป้า 14 วัน คืนพื้นผิวจราจรให้ ปชช.

รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กราบขอโทษเหตุถนนทรุด ตั้งเป้า 14 วัน คืนพื้นผิวจราจรให้ ปชช. เร่งร่วมหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย กิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. และผู้แทนจากกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-พีแอล ตั้งโต๊ะแถลงข่าวสืบเนื่องจากที่ถนนทรุดตัวหน้าทางเข้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ย. 68 ที่ผ่านมาว่า
ในนามการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทยและผู้ก่อสร้าง บริษัทควบคุมงาน ต้องกราบขออภัยทั้งผู้ป่วย ผู้ใช้บริการ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และผู้ที่ใช้ถนนสัญจรถนนสามเสน รฟม. และคณะทำงานจะพยายามเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา เพื่อฟื้นคืนสภาพให้ใช้งานสัญจรได้ปกติโดยเร็ว รวมทั้งเยียวยาดูแลผลกระทบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางรฟม.และผู้ว่าจ้างจะดูแลในทุกเรื่องอย่างเต็มที่
เหตุการณ์ถนนทรุดที่เป็นเชิงประจักษ์เริ่มขึ้นช่วงเช้าประมาณเวลา 05.00 น. ของวันที่ 24 กันยายน มีประชาชนพบเห็นว่าพื้นผิวถนนเริ่มมีการต่างระดับรถสามารถวิ่งได้อยู่เพียงแต่อยู่ถนนไม่ได้เรียบ ในช่วง 5.30 น. เริ่มมีน้ำเอ่อขึ้นมาบนผิวถนน จนกระทั่งตำรวจจราจรต้องมาจัดการจราจรพื้นที่จราจรเริ่มลดลงเหลือเพียง 1 ช่องทาง
เหตุการณ์ดังกล่าวทางโครงการได้ประสานการประปานครหลวง ซึ่งทราบว่าน้ำมาจากการรั่วไหลของท่อประปาใต้ถนน แต่การแก้ไขไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วช่วงเวลา 7.00 น. เริ่มมีการพังทลายของตัวพื้นผิวจราจรลงไปและเริ่มต่อเนื่องไปจนถึงเวลา 7.30 น.
ช่วงเวลาตั้งแต่ตี 5 จนถึง 7 โมงครึ่ง มีดินและน้ำหายไปจากบริเวณที่เกิดเหตุเป็นวงกว้าง จนเกิดหลุมกว้าง 30X30 เมตร ลึกลงไป 20 เมตร สำหรับดินที่หายไป ไหลเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้าที่ก่อสร้าง และเข้าไปในห้องโถงผู้โดยสารและชานชาลาสถานี ดินและน้ำเหล่านี้ยังมีสะสมในสถานีลึกเข้าไปในผนังกว่า 50 เมตร อีกส่วนเข้าไปในอุโมงค์ชั้นบนประมาณ 10 เมตรส่วนน้ำแผ่ไปตามพื้นค่อนข้างไกล
ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีดินและน้ำในสถานีจำนวนมากแต่ในเบื้องต้นสิ่งที่เราจะทำคือต้องหยุดการเคลื่อนของดิน หยุดการพังทลายของดินเพิ่มเติม และต้องคืนสภาพพื้นผิวจราจรให้พี่น้องประชาชนและโรงพยาบาลใช้งานได้ปกติโดยเร็วที่สุด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอจะสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ต้นเหตุน่าจะเกิดจากสภาพของดินในบริเวณดังกล่าวร่วมกับน้ำที่อยู่ในดิน ทำให้สภาพดินมีการเปลี่ยนพฤติกรรมไป เสถียรภาพของดินเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งดินและน้ำที่เป็นลักษณะพิเศษนี้ส่งผลให้ท่อประปาที่อยู่ในระดับที่ลึกไป 3 เมตร มีการชำรุด รวมทั้งน้ำจากท่อน้ำเสียก็มีการปนเปื้อนดินตรงนั้น ทำให้ดินเสียเสถียรภาพมากขึ้นไปอีก
จากนั้นดินที่เสียสภาพเริ่มเข้าไปในช่องว่างในตัวสถานีและอุโมงค์ แรงดันมหาศาลของดินและน้ำทำให้รอยต่างๆขยายวงขึ้นเรื่อยๆและเกิดการพังเข้าไป มวลดินและน้ำจึงไหลเข้าไปในสถานี สิ่งเหล่านี้เป็นข้อสันนิษฐานเบื้องต้นจากการลำดับเหตุการณ์และการประเมินทางวิชาการเบื้องต้น

ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินของรฟม.เราดำเนินการเป็น 10 ปีด้วยเทคนิคที่เป็นมาตรฐานวิชาการ เราใช้ผู้รับจ้างผู้ก่อสร้างที่มีคุณภาพมาโดยตลอดเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งแรกและเป็นเหตุการณ์พิเศษหลังจากนี้ ทางกระทรวงคมนาคมและผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ จะร่วมกันในการตรวจเพื่อหาต้นต่อต้นเหตุที่แท้จริงเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเราจะกำหนดมาตรการมีหลักการคำนวณเพิ่มเติมอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ในการแก้ไขปัญหานี้รฟม. ได้หารือกับผู้รับจ้างจะมีการดำเนินการแก้ไขเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 จะเป็นการเร่งคืนพื้นที่ รฟม. มีการสำรวจเบื้องต้นไปแล้ว สถานการณ์ตอนนี้พื้นดินมีเสถียรภาพพอสมควร การสไลด์จะเหลือเพียงเล็กน้อยเจ้าหน้าที่จะเริ่มอุดรูรั่วด้วยกระสอบทรายจำนวนประมาณ 50,000 ลูก ระหว่างอุโมงค์กับตัวสถานีจากนั้นผสมด้วยซีเมนต์ผสม เพื่อให้พื้นผิวกลับเข้ามาสู่ระดับปกติ และปรับพื้นผิวถนนแบบชั่วคราวก่อนเพื่อเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด
ระยะที่ 2 เป็นการซ่อมแซมตัวสถานีอุโมงค์ให้กลับมาทำงานปกติขั้นตอนนี้ทางรฟม. และผู้ว่าจ้างต้องลงรายละเอียดและวิเคราะห์กันอีกครั้งหนึ่ง ในมิติของการซ่อมแซมตัวอาคารที่ได้รับผลกระทบเช่นสนก็จะอยู่ในระยะที่ 2 ที่จะดำเนินการเพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงเพื่อให้กลับไปอยู่อาศัยได้ตามปกติ
ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รฟม. ผู้รับจ้างต้องขออภัยเป็นอย่างสูง รฟม. และผู้รับจ้างจะดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด
สำหรับกรณีสถานีตำรวจ นายกาจผจญ ระบุว่า ดินที่อยู่รองรับฐานล่างและเสาเข็มหายไปเพราะทรุดตัวลงไปกับถนนที่ยุบขณะนี้ยังไม่มีความเหมาะสมที่จะเข้าไปซ่อมแซม สิ่งแรกที่จะต้องทำคือต้องพยายามทำให้ทั้งรอบพื้นที่มั่นคงมากที่สุด
ทางกระทรวงคมนาคมได้มีการกำชับรฟม. ให้มีการสแกนทุกงานก่อสร้างทุกพื้นที่การก่อสร้างและรีวิวสอบถามการก่อสร้างแบบลำดับขั้นตอนความปลอดภัยทั้งหมดอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ขณะนี้ยืนยันว่าที่เราพยายามตรวจสอบเมื่อวานทั้งวันทั้งแบบและวิธีการก่อสร้าง การใช้อุปกรณ์เครื่องจักรทั้งหลายเป็นไปตามมาตรฐานตามหลักวิชาการ ขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่พบการแปรสภาพของดินและน้ำในส่วนก่อสร้างอื่นที่คล้ายสาเหตุของกรณีถนนสามเสน แต่ รฟม.ยังคงเดินหน้าในการตรวจสอบต่อไป
ในส่วนการตรวจสอบเหตุการณ์นี้ทางกระทรวงคมนาคมคาดว่าจะตั้งคณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญสภาวิศวกรต่างๆเข้ามาช่วยกันตรวจสอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน ตัวแทนกิจการร่วมค้าซีเคเอสที – พีแอล ยืนยันจะเร่งรัดคืนพื้นที่ถนนสามเสนภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากที่เกิดเรื่องได้มีการหาข้อสรุปเพื่อจะแก้ไขในปัญหาดังกล่าวเบื้องต้น บริษัทจะใช้กระสอบทรายอุดรูต่างๆ และเทคอนกรีตทับช่วงบ่ายวันนี้ทันที แต่ทั้งนี้จะเป็นการเทคอนกรีตทีละสเต็ปเพื่อให้แต่ละชั้นเซ็ตตัวแล้วค่อยเพิ่มทีละชั้น
จากนั้นจะเป็นการจัดการพื้นผิวถนน ตั้งเป้าไว้จะไม่เกิน 14 วัน เพื่อให้สามารถคืนพื้นผิวจราจรได้ ในนามของบริษัทต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชน ที่สร้างผลกระทบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้ เป็นความสุดวิสัยที่เราพยายามป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว บริษัทจะสืบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ยืนยันว่า เราเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ ตอนนี้ในฝั่งอุโมงค์ที่มีปัญหาดินเข้าไปประมาณ 20 เมตร แต่หากเทคอนกรีตถือว่ามีความปลอดภัยแต่ถ้าถมขึ้นมาอีกจะไม่ปลอดภัย ฉะนั้นจะต้องมีการนำกระสอบทรายเข้าไปทำระบบค้ำยันเพื่อให้มีการยืนยันว่ามั่นคงในการเทคอนกรีตแต่ขณะนี้การวางกระสอบทรายคือ เพื่อกันน้ำกันดินให้เร็วที่สุด ยืนยันว่าคอนกรีตที่เทจะไม่มีการกระทบกับสถานีและจะมีการรื้อออกในการกลับมาก่อสร้าง
ในส่วนของความเสียหายของรถเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการกู้ขึ้นมาในภายหลัง แต่เชื่อว่าการกู้ขึ้นมาจะไม่เหมือนเดิม อาจจะต้องตัดเป็นชิ้นส่วนออกมาแต่จะทำในช่วงระยะที่ 2
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบด่วน! พบนํ้าซึม ถนนสามเสน ห่างจากจุดถนนทรุด 2 กิโลเมตร
- “ชัชชาติ” ทิ้งกระสอบทราย 50,000 ลูก อุดช่องว่างใต้ดิน เร่งแก้ปัญหาถนนทรุด
- ชัชชาติ ลงพื้นที่กลางดึก เร่งสกัดดินสไลด์ ชี้ เคสถนนยุบไม่เหมือนตึก สตง. ถล่ม
ติดตาม The Thaiger บน Google News: