หายนะ ไต้ฝุ่น “รากาซา” ซัดโรงแรมหรูในฮ่องกง จนน้ำทะลักเข้าล็อบบี้ [คลิป]

ชมคลิปนาทีชีวิตจากโรงแรม Fullerton Ocean Park ฮ่องกง ขณะเผชิญไต้ฝุ่น “รากาซา” คลื่นพายุซัดฝั่งสูงกว่า 3 เมตร พังประตูกระจกทะลักเข้าท่วมล็อบบี้
วันที่ 25 กันยายน 2568 ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปวิดีโอสุดระทึกขวัญ ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่ โรงแรม Fullerton Ocean Park ในฮ่องกง ถูกอิทธิพลของ ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” พัดถล่มอย่างหนัก
จากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ แสดงให้เห็นถึงพลังทำลายล้างของ คลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge) ที่มีความสูงกว่า 3 เมตร โหมกระหน่ำเข้าใส่ตัวโรงแรมอย่างรุนแรง จนสามารถพังประตูกระจกและทำให้น้ำทะเลมหาศาลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรมในเวลาอันรวดเร็ว สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
เจ้าของคลิปได้บรรยายเหตุการณ์ว่า “เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมฟูลเลอร์ตัน โอเชียนพาร์ค ในฮ่องกงเมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้ว ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน… รากาซาเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับซูเปอร์จริง ๆ”

ล่าสุดเมื่อเวลา 11:20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หอสังเกตการณ์ฮ่องกง (HKO) ได้ประกาศ ยกเลิกสัญญาณเตือนภัยไต้ฝุ่นทุกระดับแล้ว หลังจากที่พายุ “รากาซา” ได้อ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวห่างออกจากฮ่องกง
ก่อนหน้านี้ ฮ่องกงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย โดยมีการประกาศใช้ สัญญาณเตือนภัยไต้ฝุ่นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นานเกือบ 11 ชั่วโมง ส่งผลให้มีต้นไม้หักโค่นกว่า 1,200 ต้น, มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย และเที่ยวบินกว่า 1,000 เที่ยวบินต้องหยุดชะงัก

ขณะนี้ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงได้กลับมาเปิดให้บริการครบทั้ง 3 รันเวย์แล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อฟื้นฟูเมืองให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
This happened at the Fullerton Hotel Ocean Park in Hong Kong a couple hours ago. I have never seen anything like this before.
I was up at 4 am taping my windows because water was just pouring in…
Ragasa is indeed a super Typhoon 🌀… pic.twitter.com/O59FJbGLsE
— Eric Yeung 👍🚀🌕 (@KingKong9888) September 24, 2025
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ฉบับที่ 8 พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” ทำฝนถล่มไทย 23-26 ก.ย.
- ชมภาพจริง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” แรงลมระดับมหันตภัย จ่อถล่มชายฝั่งหนัก
- อุตุฯ เตือนภัย! พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” ลงทะเลจีนใต้วันนี้ ไทยฝนหนักขึ้น
ติดตาม The Thaiger บน Google News: