ผู้เชี่ยวชาญ เตือน เหตุถนนทรุดหน้ารพ.วชิระ ยังไม่หยุด มั่นใจดินสไลด์ต่อเรื่อย ๆ ตามแนวถนนมุ่งหน้าแยกวชิระแน่นอน ตึกใกล้เคียงเสี่ยงถล่ม จำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่ด่วน
กลายเป็นข่าวใหญ่ของประเทศที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดถนนทรุดตัว บริเวณหน้ารพ.วชิรพยาบาล เป็นหลุมกว้าง 30*30 และมีความลึกประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นเหตุระทึกที่เกิดขึ้นกะทันหันโดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แต่โชคดีที่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ล่าสุดทางรายการ โหนกระแส ได้นำเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้ขึ้นมาพูดคุยเป็นประเด็นด่วน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงข้อมูลสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก โดยได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมและทรัพยากรธรณี ประกอบด้วย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ นายกสภาวิศวกร สมัยที่ 7 และประธานงานอุโมงค์โลก ปี 2012, รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ปรีชา สายทอง ผอ.กองทรัพยากรแร่ในฐานะรองโฆษกทรัพยากรธรณี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู-ป่อเต็กตึ๊ง มาร่วมพูดคุยให้ความรู้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
ในช่วงเบรคที่ 3 หนุ่ม กรรชัย ได้มีการสอบถามถึงสถานการณ์หลังจากนี้จะมีการยุบตัวของถนนอีกหรือไม่ ทางดร.เอ้ กล่าวว่า
“น่าเป็นห่วงมาก เพราะดินมันทรุดลงมาเป็นหลุมยุบแล้ว มันจะยิ่งสไลด์ลงไปเรื่อย ๆ ฉะนั้นทุกอาคารที่อยู่โดยรอบบริเวณที่ดินสไลด์ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตรายมากที่สุด เนื่องจากอุโมงค์อยู่ลึก 23 เมตร ถ้าเสาเข็มของอาคารรอบข้างลึกไม่ถึง 23 เมตร อาคารเหล่านั้นอันตรายทั้งหมด เพราะอยู่ใกล้พื้นที่ที่ดินสไลด์เข้าอุโมงค์ รวมถึงถนนโดยรอบตรงนั้นด้วย น่าเป็นห่วงมาก นับว่าเป็นพื้นที่ภัยพิบัติขนาดย่อมได้เลย เพราะดินมันจะสไลด์ไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเสาเข็มอยู่ลึกกว่า 23 เมตรอาคารเหล่านี้จะยังพอไหว แต่ไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะหยุดสไลด์ และไม่หยุดแน่นอน”
ขณะที่ทาง นายกวิศวกรรมสถานฯ ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนนี้ว่า “ด้านไหนที่อยู่ทางหลังกำแพงของสถานีรถไฟฟ้าอันนั้นจะไม่ค่อยน่าเป็นห่วง เพราะเขาออกแบบมาอย่างแข็งแรงแล้ว แต่ด้านที่ไม่มีกำแพงโดยเฉพาะสถานีตำรวจสามเสนน่าเป็นห่วง เตรียมสร้างใหม่ได้เลย เพราะมีเสาเข็มหายไป และยิ่งดินที่อยู่ด้านหน้าของเสาเข็มมันหายไป ดินที่อยู่ด้านหลังของเสาเข็มก็จะยิ่งดันตัวเสาเข็มออกมาทำให้เสาเข็มหักหรือหลุดเพิ่มอีก อันนี้น่ากลัว
คราวนี้ที่มันจะพังไปเรื่อย ๆ ตามแนวถนนอย่างที่อาจารย์เอ้พูดไป สิ่งที่จะหยุดมันได้คือ อย่าให้น้ำเข้าไป เพราะถ้าน้ำไหลเข้าไปเมื่อไหร่ ยิ่งน้ำไหลในที่เปิดมันไม่เหมือนตอนที่ท่อแตกในดิน มันอาจจะใช้เวลา แต่ถ้าน้ำไหลในที่เปิดพุ่งลงมา แป๊บเดียวเท่านั้นเองมันไปหมดเลย ก็ภาวนาว่าอย่าให้ฝนตก บางคนก็ใช้ผ้าใบคลุมเพื่อกันการกัดเซาะเวลาฝนตกไม่ให้น้ำมันรบกวน”
ดร.เอ้ กล่าวเสริมว่า “ตั้งแต่ทางม้าลายเป็นต้นไป ถนนตรงนั้นจะยุบลงเรื่อย ๆ ยิ่งถ้ามีฝนตกดินก็จะสไลด์มากขึ้น ตรงนี้เป็นเขตภัยพิบัติอันตรายมาก อาคารตรงนั้นคืออยู่ไม่ได้แล้ว ไม่มีใครจะบอกได้ว่าหยุด เพราะมันลึก 23 เมตร ตามหลักถ้าเกิดลึก 23 เมตรจุดที่จะต้องทรุดแน่นอนคือ 23 เมตรบนพื้นดินเช่นเดียวกัน แล้วมันจะไม่หยุด จะไปเรื่อย ๆ เพราะว่าดินตรงที่ทรุดไปช่วงเช้ามันชันมาก ต่อให้ฝนไม่ตกมันก็ไม่หยุดจะยังไหลไปเรื่อย ๆ แต่ถ้ามีฝนตกลงมาก็จะยิ่งเร่งทำให้มันสไลด์มากขึ้นเร็วขึ้น
วิธีแก้อันดับแรก ต้องปิดรูให้ได้ 100% จากข้างใน แต่พูดกันตรง ๆ เลย ส่วนที่จะไหลต่อไปมันยากที่จะป้องกันจนกว่ามันจะหยุดด้วยตัวเอง เพราะยิ่งเอารถแบคโฮไปขุดก็จะยิ่งเป็นการไปรบกวนอีก ฉะนั้นอย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด ก็ต้องภาวนาให้หยุดการสไลด์ได้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันพื้นที่ด้านข้างที่เป็นอาคารขนาดเล็ก อาคารเตี้ยต้องอพยพย้ายออกได้แล้ว”
ต่อมาทางพิธีกรได้สอบถามเพิ่มเติมถึงอาณาเขตการทรุดตัวของถนนหลังจากนี้ว่า “ตอนนี้มันไหลไปตามแนวถนน แล้วมันจะมีโอกาสขยายออกข้าง ๆ ด้วยหรือไม่”
ดร.เอ้ ยืนยันว่า “มีโอกาสแน่นอน อาคารตรงนั้นมีโอกาสถล่มลงมาแน่นอน เพราะดินใต้อาคารเริ่มเป็นรูแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรจะหยุดได้ นอกจากต้องรอให้เขาหยุดเองตามธรรมชาติ ฉะนั้นอย่าเอาเครื่องจักรใหญ่ไปไว้บริเวณนั้น และต้องรีบอพยพคนที่อยู่ด้านข้างในทันที และพื้นที่ที่ปลอดภัยคือจุดบริเวณหลังสถานีรถไฟฟ้า นอกนั้นไม่ปลอดภัยเลย
เน้นย้ำเลยว่า ห้ามเอาเครื่องจักรใหญ่ไปไว้ตรงจุดนั้นอย่างเด็ดขาด คนก็ห้ามเข้าไปบริเวณทางม้าลายและบริเวณนั้นเด็ดขาด เพราะการสไลด์ตัวยังไม่หยุดตอนนี้แน่นอน หลุมลึกขนาดนั้นดินต้องไหลไปทดแทนแน่นอน ดินก็มาจากด้านหน้าด้านซ้ายด้านขวาไหลมาเพื่อปิดหลุดตรงนั้น ต้องให้หยุดตามธรรมชาติ เราไม่สามารถเอาเครื่องจักรใด ๆ ไปช่วยได้เลย วิศวะเก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางรู้ธรรมชาติได้ 100% ดังนั้นต้องรอให้มันมีการเคลื่อนตัวให้แน่ใจว่าหยุดแล้ว อันนี้ถึงจะลงพื้นที่ไปทำอะไรต่อได้”
ด้าน รศ.ดร.วัชรินทร์ เผยว่า “เหตุการณ์ ณ วันนี้ก็ต้องนำผู้คนและทรัพย์สินออกไปจากพื้นที่ก่อนจะดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ไม่เสี่ยง ถ้าถามว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร จริง ๆ ยืนยันว่าทางด้านวิศวกรรมของประเทศไทยมีทั้งกฎหมาย มาตรฐาน กฎระบบ น่าจะเป็นประเทศที่มีเยอะมากเรื่องกฎพวกนี้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ทำตามนั้นหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ทำตามกฎข้อบังคับ หรือมาตรฐานที่ตั้งไว้มันก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นอีก”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! ถนนหน้า รพ.วชิระ ทรุดตัวซ้ำ ตอม่อและเสาไฟตกลงไปเพิ่ม (คลิป)
- รฟม. สั่งหยุดสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เร่งหาสาเหตุถนนทรุด
- รพ.รามาฯ เตือนอย่าหลงเชื่อ “มิจฉาชีพ” อาศัยช่วงข่าวใหญ่ถนนทรุด โทรหลอกเงิน
อ้างอิงจาก : รายการ โหนกระแส
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
