ฮือฮา! NASA เตรียมส่งนักบินอวกาศทำภารกิจที่ดวงจันทร์ ครั้งแรกในรอบ 50 ปี

NASA เตรียมส่งนักบินอวกาศ 4 นาย เดินทางรอบดวงจันทร์ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 และถือเป็นการเดินทางนอกวงโคจรโลกครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NASA) ประกาศเตรียมส่งนักบินอวกาศไปทำภารกิจเดินทางรอบดวงจันทร์เป็นเวลา 10 วัน โดยเร็วที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ซึ่งจะเป็นภารกิจมีมนุษย์เดินทางนอกวงโคจรโลกครั้งแรกในรอบ 50 ปี
ลากีชา ฮอว์กินส์ รักษาการรองผู้บริหารของ NASA กล่าวว่านี่จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการสำรวจอวกาศของมนุษย์ โดยกรอบเวลาการปล่อยยานอาจเปิดเร็วที่สุดในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ แต่ยังคงเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
ภารกิจ Artemis II เป็นการปล่อยยานครั้งที่สองของโครงการ Artemis ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดคือการส่งนักบินอวกาศไปลงจอดบนดวงจันทร์ และสร้างฐานประจำการถาวรบนพื้นผิวดวงจันทร์ในอนาคต
ชาร์ลี แบล็กเวลล์-ทอมป์สัน ผู้อำนวยการภารกิจ Artemis กล่าวว่าระบบจรวด Space Launch System (SLS) ซึ่งเป็นจรวดทรงพลังที่จะพานักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์นั้น “พร้อมแล้ว” เหลือเพียงแค่การประกอบแคปซูลของลูกเรือที่ชื่อ Orion เข้ากับจรวด และทำการทดสอบภาคพื้นดินให้เรียบร้อยเท่านั้น
ภารกิจ Artemis ครั้งแรกปล่อยยานไร้คนขับเป็นเวลา 25 วันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้จะมีปัญหาเล็กน้อยที่แผ่นกันความร้อนของยาน แต่ก็ได้แก้ไขแล้ว
ภารกิจ Artemis II จะมีนักบินอวกาศ 4 นาย ได้แก่ รีด ไวส์แมน, วิคเตอร์ โกลเวอร์, คริสตินา คอช จาก NASA และ เจเรมี แฮนเซน จากองค์การอวกาศแคนาดา ซึ่งแม้จะไม่ได้ลงจอดบนดวงจันทร์ แต่พวกเขาจะเป็นลูกเรือกลุ่มแรกที่เดินทางไกลออกไปนอกวงโคจรโลกนับตั้งแต่ภารกิจ Apollo 17 ในปี 1972
เจฟฟ์ แรดิแกน ผู้อำนวยการภารกิจ Artemis II กล่าวว่าลูกเรือจะเดินทางไกลออกไปในอวกาศมากกว่าที่มนุษย์เคยทำมา โดยจะเดินทางเลยดวงจันทร์ไปอย่างน้อย 5,000 ไมล์ทะเล (9,200 กิโลเมตร)
นอกจากภารกิจหลักในการทดสอบระบบของจรวดและยานอวกาศแล้ว นักบินอวกาศยังทำหน้าที่เป็น “หนูทดลอง” เพื่อให้เกิดการศึกษาวิจัยผลกระทบของอวกาศต่อร่างกายมนุษย์อีกด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์จะเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อตัวอย่างจากเลือดของนักบินอวกาศทั้งก่อนและหลังการเดินทาง เพื่อเปรียบเทียบว่าร่างกายของพวกเขาได้รับผลกระทบจากสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงและรังสีในอวกาศอย่างไรบ้าง
ดร. นิกกี ฟ็อกซ์ หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ NASA กล่าวว่า “คุณอาจสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องทำทั้งหมดนี้ในเมื่อเรามีนักบินอวกาศจริงๆ อยู่แล้ว แต่เราต้องการศึกษาผลกระทบของสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงและรังสีในตัวอย่างอย่างละเอียด และฉันคงไม่ไปผ่าชันสูตรนักบินอวกาศหรอก!”
อ้างอิง : www.bbc.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ NASA คำนวณ “วันสิ้นโลก” ออกมาแล้ว โลกเหลือเวลาแค่นี้
- ผู้โดยสารตีเนียน แอบขึ้นรถไฟฟรี นั่งเฟิร์สคลาส พขร.เห็นเข้า ก่อนนำตัวออกจากขบวน
- เสื่อม ครูพี่เลี้ยงสาวสารภาพหมดเปลือก มีเซ็กซ์กับนักเรียนชาย จ่อนอนคุก 5 ปี
ติดตาม The Thaiger บน Google News: