การเงินเศรษฐกิจ

ขายด่วน ทองคำ ราคาทุบสถิติ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ ทะลุ 118,000 บาท หลังเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% เปิดสาเหตุที่นักลงทุนแห่ซื้อกองทุน ETF และทิศทางในอนาคต ทองไทยวันเดียวพุ่ง 1,000 บาท

ราคาทองคำยังคงเดินหน้าสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางของทองคำมากขึ้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 ว่า ราคาทองคำในตลาดเอเชียพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,749.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 118,102 บาท (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 31.5 บาทต่อดอลลาร์) ถือเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจาก 2 วันทำการก่อนหน้า เป็นผลโดยตรงจากการที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การลดดอกเบี้ยเป็นผลดีต่อทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำผ่านกองทุน ETF ทองคำ (Gold ETFs) อย่างคึกคัก โดยยอดการถือครองทองคำผ่านกองทุน ETF ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 3 ปี

แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะส่งสัญญาณถึงความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงชั่วคราว แต่นักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ

นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets ระบุในบทวิเคราะห์ว่า “หลังจากราคาทองคำย่อตัวลงหนึ่งวันหลังการลดดอกเบี้ยของเฟด แรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยได้แรงหนุนสำคัญจากการไหลเข้าของเงินทุนในกองทุน ETF เราเชื่อว่าวัฏจักรการลดดอกเบี้ยได้เริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว และแนวโน้มราคาทองคำในไตรมาสที่ 4 ยังคงเป็นบวก”

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องระมัดระวังในการตัดสินใจเรื่องนโยบายการเงิน เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่

สำหรับโลหะมีค่าอื่นๆ เช่น เงิน ก็ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยมีราคาซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 44 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 1,386 บาท)

ราคาทองคำและเงินถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของเฟด การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อเป็นทุนสำรอง และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ และจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ หากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดพิจารณาลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม

คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Pepperstone Group Ltd. กล่าวว่า “ผู้จัดการกองทุนและนักลงทุนสามารถใช้ทองคำเพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยม เนื่องจากราคามีความสัมพันธ์น้อยกับสินทรัพย์หลักอื่นๆ และทุกคนเห็นได้ชัดว่าราคากำลังทะยานขึ้น”

ในประเทศไทย ณ เวลา 16.25 น. 23 กันยายน 2568 ปรับตัวขึ้นร้อนแรงไม่แพ้กัน

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

  • รับซื้อ: 56,850 บาทต่อบาททองคำ
  • ขายออก: 56,950 บาทต่อบาททองคำ

ราคาทองรูปพรรณ 96.5%

  • รับซื้อ: 55,713 บาทต่อบาททองคำ
  • ขายออก: 57,750 บาทต่อบาททองคำ

เมื่อเทียบกับราคาปิดของวันก่อนหน้า ราคาทองคำในประเทศปรับตัวสูงขึ้นถึง 1,000 บาท ขณะที่ค่ากำเหน็จของทองรูปพรรณ (ส่วนต่างระหว่างราคาขายออกทองคำแท่งและทองรูปพรรณ) อยู่ที่ประมาณ 800 บาท

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button