ข่าว

ลุ้นอาการ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าอายุ 3 วัน สัตวแพทย์เร่งประเมินหลังถึงบึงฉวาก

ลุ้นอาการ น้องข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลง ถูกแม่ช้างทิ้งกลางป่า สระบุรี ทีมสัตวแพทย์เร่งประเมินอาการหลังถึงศูนย์ฯ บึงฉวาก จ.สุพรรณฯ

ความคืบหน้าการดูแลลูกช้างป่าพลัดหลงเพศเมีย อายุประมาณ 3 วัน ชื่อ “ข้าวต้ม” ซึ่งได้ถูกเคลื่อนย้ายมาถึงศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เรียบร้อยแล้ว หลังจากวานนี้ (22 ก.ย.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือลูกช้างป่าเพิ่งเกิดที่พลัดหลงจากแม่และโขลง ซึ่งถูกพบในพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้นำลูกช้างมาดูแลที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงู และทีมสัตวแพทย์กำลังพิจารณาเคลื่อนย้ายลูกช้าง

โดยหลังจากทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ซึ่งประกอบด้วย สพ.ญ.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ และ สพ.ญ.กานต์พิชชา หาญอาษา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายลูกช้างป่าตัวนี้จากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มายังศูนย์ฯ บึงฉวาก

ก่อนจะเคลื่อนย้ายขึ้นรถกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อมุ่งหน้ามายังศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เพื่อดูแลฟื้นฟูร่างกายนั้น

มีรายงานว่าตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาจนท.ได้ช่วยกันดูแลฟื้นฟูร่างกาย น้องข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลง ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติลำคลองงู

เบื้องต้นพบว่า ”น้องข้าวต้มลูกช้าง“ มีอาการบาดเจ็บที่ขาหลัง (ถลอก) ยังไม่สามารถลุกหรือพยุงตัวได้ ส่วนอาการอิดโรย เริ่มมีแรงขึ้นหลังจากทีมสัตวแพทย์ได้ให้ดื่มนม โดยตั้งแต่เช้ามีชาวบ้านที่รู้ข่าวเดินทางมาดูและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และน้องข้าวต้มเป็นระยะ

ล่าสุดจากการประเมินอาการเบื้องต้น สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ และหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ระบุ “ลูกช้างป่ามีอาการอ่อนแรง-ไม่สามารถลุกเดินได้ แสดงอาการเจ็บปวดบริเวณสะโพก ขาหลัง และหาง”

นอกจากนี้ยังพบการอักเสบที่สะดือและอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นอาการที่พบตั้งแต่แรกที่พบลูกช้าง สัตวแพทย์จึงได้ให้ยาเพื่อลดอาการปวดและอักเสบทันที

ปัจจุบันลูกช้างสามารถกินน้ำต้มข้าวผสมนมผงได้ และมีการขับถ่ายเป็นเนื้อครีม แต่ยังไม่พบการปัสสาวะในช่วงเย็น ทีมสัตวแพทย์กำลังเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันในวันนี้ (23 ก.ย.) ทีมสัตวแพทย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จะเดินทางเข้ามาร่วมตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาเพิ่มเติมต่อไป.

ขอบคุณคลิป : รายการวันใหม่ไทยพีบีเอส

ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ @กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button