ข่าว

“หมอต่อ” ตัดพ้อ เป็นฝ่ายเงียบ-ถูกกระทำมาตลอด ปมถูกโยงฮุบบริษัท วอนขอกำลังใจ

“หมอต่อ” เคลื่อนไหวครั้งแรก หลัง “เม พรีมายา” โพสต์แฉถูกฮุบธุรกิจ ลั่น “เป็นฝ่ายเงียบและถูกกระทำมาโดยตลอด” จนต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม

จากกรณีดราม่าที่ เม พรีมายา หรือ เม พิชญ์นรี CEO เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดัง โพสต์อ้างว่าถูกพี่และเพื่อนสนิทฮุบธุรกิจ ล่าสุด หมอต่อ นพ.ภาณุพงศ์ ภัทรกุลเทวี แพทย์ผู้บริหารคลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) ได้ออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการแชร์โพสต์แถลงการณ์ชี้แจงความจริง พร้อมระบุข้อความแคปชั่นว่า

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ต่อกับทีมงานเป็นฝ่ายเงียบและถูกกระทำมาโดยตลอด จนต้องไปพึ่งกระบวนการยุติธรรม สร้างแบรนด์ใหม่จนมีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจ เพราะไม่ได้มีแค่ตัวเอง แต่มีพนักงานและครอบครัวอีกหลายสิบชีวิต แต่ไม่คิดว่าต้องมาเจอกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องมุ่งหวังทำลายสิ่งที่สร้างด้วยหงาดเหงื่อและน้ำตา ขอทุกคนช่วยเป็นกำลังใจและเห็นแก่ที่ต่อทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดด้วยครับ”

นพ.ภาณุพงศ์ ภัทรกุลเทวี หรือ หมอต่อ ผู้บริหาร Dermatige Aesthetics
IG/ @torpattarakul

แถลงการณ์ชี้แจงความจริง จากคลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 ระบุว่า

“จากกรณีพาดพิงทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆของบุคคล(อินฟลูเลนเซอร์ท่านหนึ่ง)ซึ่งสร้างผลกระทบให้เกิดความเข้าใจผิดบิดเบือนความจริงทำให้ทางแบรนด์คลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) เสียหายโดยอยู่ระหว่างดำเนินคดีอาญาและอื่นๆ ซึ่งศาลฯมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีมีมูลไปแล้ว 1 คดีจากการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายก่อนนี้ แต่กลับให้ข้อมูลเท็จบิดเบือนทำให้แบรนด์คลินิกตลอดจนผู้เกี่ยวข้องและบริษัทฯเดือดร้อนเสียหายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายมุ่งหมายหาประโยชน์มิชอบจากการกระทำดังกล่าว

จึงขอออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันปฏิเสธข้อมูลเท็จดังกล่าวทั้งสิ้น พร้อมขอชี้แจงความบริสุทธิ์ในครั้งนี้ เนื่องจากช่วงปี 2566 ขณะยังเป็นแบรนด์คลินิกเดิมนั้นบุคคลดังกล่าวซึ่งร่วมก่อตั้งนั้นเกิดปัญหาจากปัญหาส่วนของตัวบุคคลดังกล่าวเองจนเป็นข่าวเสียหายของบุคคลนั้น (ซึ่งสามารถตรวจสอบข่าวได้ตามที่ปรากฎทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ) จากเหตุดังกล่าวมีผู้คนต่าง ๆ เข้าใจผิดทำให้ยอดขายตกลูกค้าไม่มาใช้บริการเนื่องจากความเสื่อมเสียชื่อเสียงดังกล่าวของบุคคลดังกล่าว ซึ่งส่งผลชัดเจนในสาขาที่เกิดขึ้นทำให้ยอดตกต่ำรายได้หดหายเงินไม่พอกับค่าใช้ต่าง ๆ จนสุดท้ายต้องปิดกิจการสาขาบางสาขา

ต่อมาบุคคลดังกล่าวจึงเสนอขายหุ้นให้ทั้งหมดผู้ถือหุ้นที่เหลือพร้อมทั้งลาออกจากการเป็นกรรมการในขณะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นนั้นซึ่งขณะนั้นบริษัทฯและกิจการไม่ได้มีผลประกอบการที่ดีนักตลอดจนเกิดสภาวะปัญหาต่างๆตามที่เรียนข้างต้น จึงยุติกิจการ พริมยา คลินิก แบรนด์คลินิกเดิม (ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากทางหน่วยงานราชการต่าง ๆ)

โดยผู้ถือหุ้นและกรรมการเดิมที่ซื้อหุ้นจากบุคคลนั้นแล้ว จึงรีบเข้าแก้วิกฤติปัญหาก่อตั้งสร้างแบรนด์ใหม่ในนามแบรนด์คลินิก Dermatige Aesthetics (เดอร์มาทีจ เอสเธติคส์) จนถึงปัจจุบันและมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกิจการเครือร่วมพันธมิตรธุรกิจดูแลแบรนด์ดังกล่าวร่วมกันเพื่อดูแลลูกค้าในแต่ละสาขา โดยไม่มีบุคคลดังกล่าวร่วมก่อตั้งหรือแก้ไขเผชิญวิกฤตปัญหาตลอดจนไม่ได้ร่วมบริหารแต่อย่างใด

นอกจากนี้บุคคลดังกล่าวได้พยายามกระทำการให้ทางแบรนด์คลินิกรวมถึงผู้เกี่ยวข้องตลอดจนทีมบริหารเดือดร้อนเสียหายหลายครั้งรวมถึงแจ้งเท็จต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งได้มีการเข้าชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานแล้ว ตลอดจนต่อมาถูกกระทำการต่างๆหลายครั้งให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก จนไม่อาจวางเฉยได้จึงฟ้องคดีต่อศาลตามที่แถลงการณ์ข้างต้น และได้รับความเมตตาสถิตซึ่งความยุติธรรมในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมีคำสั่งประทับรับฟ้องขณะนี้มีผลออกมาแล้ว 1 คดีให้มีคำสั่งประทับรับฟ้อง (เนื่องจากที่เป็นคดีความระหว่างกันในขณะนี้ จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่างๆทั้งหมดได้เนื่องจากจะเป็นการก้าวล่วงฯและไม่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมในหลายๆคดี)

ดังนี้จึงขอแถลงการณ์เพื่อชี้แจงป้องกันความเสียหายซึ่งอาจเกิดขึ้นลุกลามจากความเท็จที่บิดเบือนทั้งสิ้น รวมถึงหลักฐานเอกสารต่างๆที่บุคคลดังกล่าวนำสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ อีกทั้งหลักฐานที่อ้างว่าเป็นเอกสารคลินิกก็ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้นและแตกต่างกับเอกสารฉบับจริงรวมถึงที่นำส่งศาลในการสืบพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องอย่างเป็นพิรุธ

ทางคลินิกขอยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลินิกแต่อย่างใด และเหตุที่ออกแถลงการณ์เบื้องต้นนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์พร้อมย้ำเตือนไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือหลงเชื่อข้อมูลเท็จดังกล่าว ในการนี้ขอสงวนสิทธิดำเนินคดีตามกฎหมายต่อความเสียหายอันพึงมีทั้งสิ้นทั้งปวง และขอความเห็นใจอย่าฟังความข้างเดียว (พร้อมทั้งข้อมูลตรวจสอบที่อ้างถึงตามแถลงการณ์นี้นั้นประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ ต่างกับที่ปรากฏอ้างฝ่ายเดียวที่อยู่ในโชเชียลขณะนี้)

ทางคลินิกฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเข้าใจในมุมมองของทุกฝ่ายและรับข้อมูลอย่างมีสติเพื่อไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดี พร้อมขอฝากข้อคิดที่ยึดถือมั่นของคลินิกต่อเหตุการณ์นี้ในเรื่องความจริงคือ “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ”

IG/ @torpattarakul
IG/ @torpattarakul
IG/ @torpattarakul
IG/ @torpattarakul

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button