ออม สุชาร์ ทุ่ม 25 ล้านบาท ซื้อหุ้น Fleen Beauty อีก 48% จากคู่กรณี พริม ณัฐชา ยอมถอนฟ้อง ยุติทุกคดีความ เตรียมจับมือ น้องอัง รีบูตแบรนด์เต็มตัว
ในที่สุดมหากาพย์ดราม่าทางธุรกิจของแบรนด์เครื่องสำอาง Fleen Beauty ได้เดินทางมาถึงบทสรุปแล้ว หลังจากการไกล่เกลี่ยที่ศาลนานกว่า 9 ชั่วโมง โดย ออม สุชาร์ มานะยิ่ง ได้ตกลง ซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมด 48% จากคู่กรณี พริม ณัฐชา ชุณหะ ด้วยมูลค่า 25 ล้านบาท
จับตา “Fleen Beauty ฉบับรีบูต” ใครคุมเกม ออม สุชาร์ เบ็ดเสร็จ?
ผลจากการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ทำให้ ออม สุชาร์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นของ บริษัท อินโนฟีน่า จำกัด เจ้าของแบรนด์ Fleen Beauty แต่เพียงผู้เดียว (100%) และเป็นเงื่อนไขสำคัญที่นำไปสู่ การยุติข้อพิพาทและถอนฟ้องทุกคดี ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งคดีระหว่างออมกับพริม และคดีที่เกี่ยวพันกับ ศศา อดีตผู้จัดการส่วนตัว
ภายหลังการไกล่เกลี่ย ออม สุชาร์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ตนถือหุ้นทั้งหมด 100% และจะเดินหน้าฟื้นฟูแบรนด์ทันที โดยมีสัญญาณชัดเจนว่าโครงสร้างการบริหารจะเปลี่ยนแปลงไป
ออมได้กล่าวถึง อัง สุพัตรา มานะยิ่ง น้องสาวซึ่งเป็นกำลังสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ว่ามีแนวคิดจะแบ่งหุ้นให้และดึงเข้ามาร่วมบริหารแบรนด์อย่างเต็มตัวในอนาคต
ในส่วนของทิศทางแบรนด์ คาดว่าจะมีการนำกลยุทธ์การตลาดเดิมที่เคยวางไว้ก่อนเกิดปัญหา กลับมาเดินหน้าต่อทันที โดยเน้นการขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha รวมถึงสร้างคอมมูนิตี้ของผู้ใช้งานจริงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรก คือการจัดทัพทีมบริหารชั่วคราว, การเคลียร์สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาและบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมด และการสื่อสารเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับคืนมา
การปิดดีลมูลค่า 25 ล้านบาทในครั้งนี้ ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ และเป็นการเริ่มต้นใหม่ของแบรนด์ Fleen Beauty ภายใต้การนำของ ออม สุชาร์ อย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ พริม ยังได้โพสต์เอกสาร สรุปข้อมูลศาลแฟ่งพระโขนง นัดไกล่เกลี่ย ชี้สองสถาน สืบพยานโจทก์ มีใจความว่า
“วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๘ เวลา ๙.๐๐ นาฬิกา ศาลแพ่งพระโขนงได้นัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ พน ๑๐/๒๕๖๘ ระหว่าง นางสาวณัฐชา ชุณหะ โจทก์ บริษัท อินโนฟีน่า จำกัด จำเลย เรื่อง เพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
ปรากฏว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ โดย นางสาวณัฐชา ชุณหะ (โจทก์) และ นางสาวสุชาร์ มานะยิ่ง ในฐานะส่วนตัวและในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน บริษัท อินโนฟีน่า จำกัด (จำเลย) ต่างประสงค์จะระงับคดีข้อพิพาทที่มีอยู่ระหว่างกัน ในศาลและในคดีอื่นๆ ทุกคดีตามข้อตกลงสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๘ ซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายได้นำเสนอต่อศาลแพ่งพระโขนง
ทั้งนี้ หลังจากนี้แต่ละฝ่ายจะไม่บังคับข้อพิพาทคดีใดๆ หรือที่มีมูลเกี่ยวกับคดีนี้หรือร้องฟ้องกันอีกและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายเอาจากกันอีก ตลอดจนแต่ละฝ่ายจะไม่กระทำการใดๆ ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร หรือให้ถ้อยคำต่อสาธารณะ กระทบสิทธิของอีกฝ่ายหนึ่ง ตามเงื่อนไขของสัญญาประนีประนอมยอมความ
ทั้งสองฝ่ายขอขอบคุณศาลแพ่งพระโขนงที่ช่วยในการเจรจาไกล่เกลี่ย”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทนายแก้ว ตกใจ! ดราม่า ออม สุชาร์ มองแรงในโหนกระแส สรุปปมหุ้นส่วนร้อน คุย 3 ชม.
- น้องออม สุชาร์ เปิดคลิปเสียง “ศสา” โทรหา “แอมป์ พิธาน” ขอเงินเพิ่มแลกถอนตัว
- น้องสาว “ออม สุชาร์” งัดคลิปเสียงแฉคู่กรณี พบใบเสนอราคาแบรนด์อื่นในอีเมลบริษัท
หมายเหตุ : เหตุผลที่ผู้เขียนใช้กรอบ 30-90 วันแรก กับ Fleen มีฐานอิงจากแนวปฏิบัติสากลของ ช่วงเปลี่ยนผ่านหลังดีลหรือเปลี่ยนเจ้าของครับ โดยอ้างอิงจาก หนังสือและงานวิจัยของ Michael D. Watkins ใช้ 90 วันแรก เป็นเส้นตายธรรมชาติที่องค์กรมัก คาดหวังผลลัพธ์เริ่มต้น จากผู้นำหรือทีมใหม่ ถ้ายังไม่สร้างแรงส่งในช่วงนี้ โอกาสล้มเหลวจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนั่นเองครับ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
