ข่าวต่างประเทศ

ผู้นำเกาหลีเหนือลั่น พร้อมเปิดโต๊ะเจรจาสหรัฐฯ หากยกเลิกการเรียกร้องปลดอาวุธนิวเคลียร์

คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เผยพร้อมเจรจากับ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ หากยอมทิ้งเงื่อนไขเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์

คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวในการประชุมรัฐสภาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขายังคงมีความทรงจำที่ดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐฯ หากรัฐบาลวอชิงตันยอมยกเลิกเงื่อนไขเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ของเกาหลีเหนือ

คำกล่าวของคิมมีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ได้แสดงความหวังว่าจะได้พบกับผู้นำเกาหลีเหนืออีกครั้งในปีนี้ ระหว่างการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีอี แจ มยอง เมื่อเดือนที่แล้ว

คิม จองอึน กล่าวว่า “หากสหรัฐฯ ยอมทิ้งความหมกมุ่นที่ว่างเปล่ากับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และต้องการอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนืออย่างสันติโดยยอมรับความจริงแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะไม่เปิดโต๊ะเจรจาด้วย” และเสริมว่า “โดยส่วนตัวแล้ว ผมยังคงมีความทรงจำที่ดีกับประธานาธิบดีทรัมป์”

การออกมาแสดงความเห็นโดยตรงต่อความสัมพันธ์กับทรัมป์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของคิม จองอึน หลังจากที่ คิม โย-จอง น้องสาวของเขาเคยกล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคมว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างทั้งสองคนนั้น “ไม่เลวเลย”

อย่างไรก็ตาม คิม จองอึนได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าเกาหลีเหนือจะไม่มีวันยอมสละอาวุธนิวเคลียร์ โดยกล่าวว่าอาวุธเหล่านี้จะไม่ใช่เครื่องต่อรอง และ “ขอยืนยันว่าจะไม่มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์สำหรับเราอย่างเด็ดขาด” โดยชี้ว่าสถานะการเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ถูกบันทึกไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว และ “จะไม่มีการเจรจาใดๆ กับศัตรูในลักษณะที่ต้องแลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างเพื่อแลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร”

คิมยังกล่าวถึงเกาหลีใต้ว่า เขาจะไม่มีวันเปิดโต๊ะเจรจากับเกาหลีใต้อีกต่อไป พร้อมยืนยันว่าประเทศของเขาจะไม่มีวันรวมชาติกับเกาหลีใต้ “เราจะไม่มีวันรวมชาติกับประเทศที่มอบการเมืองและการป้องกันประเทศให้กับอำนาจต่างชาติ” ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าว พร้อมเรียกการรวมชาติระหว่างเกาหลีว่า “ไม่จำเป็น”

นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่าเกาหลีเหนือได้สร้างความสำเร็จครั้งสำคัญในภาคการป้องกันประเทศในปีนี้ รวมถึงการสร้างเรือพิฆาตลำใหม่ และเสริมว่า “เราได้ครอบครองอาวุธลับใหม่ๆ และประสบความสำเร็จในด้านวิทยาศาสตร์การป้องกันประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางทหารของเราอย่างมาก” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่าอาวุธลับดังกล่าวคืออะไร

อ้างอิง : en.yna.co.kr

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button