ม้วนเดียวจบ! สรุป 10 ข้อ ดราม่า ออม สุชาร์ จากจุดเริ่มต้นหุ้นส่วน สู่ปมแตกหักเรื่องแบรนด์คู่แข่ง, ดีลลับซื้อหุ้น 4%, สัญญา NDA และค่าตัวพรีเซนเตอร์ 9.5 ล้าน
บทสรุปเต็ม ดราม่า “ดาราฮุบกิจการ” ฝั่ง ออม สุชาร์ บนรายการโหนกระแส [19 ก.ย. 2568]
กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าทางธุรกิจที่สังคมให้ความสนใจอย่างยิ่ง กรณีความขัดแย้งของนักแสดงสาว ออม สุชาร์ มานะยิ่ง และหุ้นส่วนแบรนด์เครื่องสำอาง Fleen Beauty ล่าสุด (19 ก.ย. 68) ออม สุชาร์ ได้ควงน้องสาวและทีมทนายมาชี้แจงทุกประเด็นในรายการโหนกระแส ทีมข่าว The Thaiger จึงจะมาสรุป 10 ประเด็นสำคัญจากคำชี้แจงของเธอ ดังนี้
1. จุดเริ่มต้นธุรกิจและโครงสร้างหุ้น
ออมรู้จักกับ พริม ณัฐชา ผ่าน ศสา หรือ ริสา (อดีตผู้จัดการ) และได้ชวนกันทำธุรกิจเครื่องสำอาง Fleen Beauty โดยโครงสร้างหุ้นในช่วงเริ่มต้นมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง และออมยอมรับว่าช่วงแรกตามใจ พริมในเรื่องสัดส่วน เพราะมองว่าตนเองไม่ถนัดธุรกิจ
2. ปมรอยร้าว แบรนด์คู่แข่ง (RAD)
ออมชี้แจงว่าตนเข้าใจมาตลอดว่าพริมเลิกทำแบรนด์ RAD ไปแล้ว แต่เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 น้องสาวของออมได้พบ “โลโก้รีแบรนด์ของ RAD” ใน Google Drive ของบริษัท Fleen Beauty ทำให้ออมรู้สึกช็อกและเสียความไว้วางใจ ซึ่งนำไปสู่ข้อพิพาทเรื่องการทำธุรกิจแข่งขัน
หลังจากที่ ฝั่งออมได้ค้นพบหลักฐานชิ้นแรก คือ โลโก้ของแบรนด์ RAD ซึ่งเป็นแบรนด์คู่แข่ง อยู่ใน Google Drive ของบริษัท Fleen Beauty ทำให้เกิดความสงสัยและรู้สึกเสียความไว้วางใจ
ต่อมา 24 มกราคม ออม สุชาร์ ได้ตัดสินใจเข้าเจรจาและตกลง ซื้อหุ้น 4% ต่อจากคุณศศา ในราคา 2.5 ล้านบาท ซึ่งทำให้ออมกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
กระทั่งในวันที่ 25 มกราคม หลังจากที่ออมได้เสียงข้างมากในบริษัทแล้ว ก็ได้มีการนัดพูดคุยกับคุณพริมทันทีในวันถัดมา ในการพูดคุยครั้งนี้เอง ที่ฝั่งออมได้เปิด “คลิปเสียงสนทนา” ซึ่งคุณพริมยอมรับว่ากำลังทำแบรนด์ RAD จริง และตั้งใจว่าจะบอก แต่ยังหาจังหวะไม่ได้
3. เอกสาร ห้ามรับพรีเซนเตอร์ ที่ออมไม่เซ็น
ออมเปิดเผยว่าเคยได้รับเอกสารจากพริมที่ระบุให้ตน “ห้ามรับงานพรีเซนเตอร์ในกลุ่มสินค้าความงามทั้งหมด” ซึ่งออมมองว่าไม่เป็นธรรมและผูกมัดเกินไปจึงไม่ได้ลงนาม แต่ยืนยันว่าตลอดการทำธุรกิจร่วมกัน ตนรักษาสัญญาใจโดยไม่ได้รับงานพรีเซนเตอร์แบรนด์อื่นทับซ้อน
4. ดีลลับซื้อหุ้น 4% ราคา 2.5 ล้านบาท
เมื่อเกิดปัญหาความไม่ไว้วางใจ ออมได้ตัดสินใจเจรจาขอซื้อหุ้น 4% จากศศา ในราคา 2.5 ล้านบาท (จากมูลค่าพาร์ 1 แสนบาท) เพื่อให้ตนเองมีอำนาจในการบริหารและแก้ปัญหาบริษัท โดยยืนยันว่าไม่ได้หลอกว่าบริษัทขาดทุน
5. เหตุผลที่ต้องจับ ศสา เซ็นสัญญารักษาความลับ
การซื้อขายหุ้น 4% ดังกล่าว ได้ทำ สัญญารักษาความลับ (NDA) ควบคู่ไปด้วย โดยฝ่ายออมให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันข้อมูลภายในของบริษัทรั่วไหล เช่น งบการเงิน หรือมูลค่าการซื้อขาย ในช่วงที่บริษัทยังมีความเปราะบาง
6. “ศสา” โฟนอินแจงเหตุผลขายหุ้น
ศสาได้โทรศัพท์เข้ามาในรายการโหนกระแสวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 ยอมรับว่า ขายหุ้นเพราะกลัวจะต้องรับภาระหนี้หากบริษัทขาดทุนในอนาคต และไม่ทราบมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทในขณะนั้น แต่เมื่อมาทราบภายหลังว่าบริษัทมีกำไร จึงได้โทรศัพท์ไปหา “คุณแอมป์ พิธาน” (แฟนของออม) เพื่อขอเงินเพิ่ม แลกกับการส่งมอบเอกสารโอนหุ้น
7. ปม “ไฟล์งานหาย” หลังการซื้อหุ้น
ออมชี้แจงว่า เหตุผลที่ยังไม่ให้ศสาบอกพริมเรื่องการขายหุ้นทันทีเพราะกังวลว่าปัญหาจะบานปลาย และหลังจากที่พริมทราบเรื่อง ก็เกิดเหตุการณ์ “ไฟล์โฆษณาลิปสติก” ที่เตรียมจะเปิดตัวได้หายไปจากระบบ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ฝ่ายออมต้องแจ้งความและดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท
8. ค่าตัวพรีเซนเตอร์ 9.5 ล้าน จ่ายจริงหรือไม่?
ออมปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าตนเองรับเงินค่าพรีเซนเตอร์ 9.5 ล้านบาท โดยยืนยันว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียง “การตั้งราคาเพื่อประเมินต้นทุนแฝง” ของบริษัทเท่านั้น ยังไม่มีการจ่ายเงินจริงแต่อย่างใด
9. จุดยืนที่แตกต่างของสองฝ่าย
จากเรื่องราวทั้งหมดทำให้เห็นจุดยืนที่ต่างกันชัดเจนว่าฝั่งออม ต้องการเดินหน้าทำธุรกิจ Fleen ต่อไป และพร้อมจะซื้อหุ้นทั้งหมดของอีกฝ่ายโดยให้บุคคลที่สามมาประเมินมูลค่า ส่วนฝั่งพริม ต้องการปิดบริษัทและแยกย้าย เนื่องจากขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
10. สถานการณ์ปัจจุบัน
ขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันในหลายข้อหา ทั้งการเพิกถอนมติที่ประชุม, การเปลี่ยนแปลงกรรมการ และการแข่งขันทางการค้า ซึ่งข้อเท็จจริงสุดท้ายในประเด็นตัวเลขและผลประโยชน์ต่างๆ ยังคงต้องรอการพิสูจน์หลักฐานในชั้นศาลต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พริม โฟนอินเคลียร์ ออม สุชาร์ โหนกระแส ยันไม่เคยปิดมีแบรนด์อื่น เรื่องเกิดจากคิดไปเอง
- น้องสาว “ออม สุชาร์” งัดคลิปเสียงแฉคู่กรณี พบใบเสนอราคาแบรนด์อื่นในอีเมลบริษัท
- เปิด 4 ธุรกิจ ‘ออม สุชาร์’ ในฐานะผู้บริหารหญิงแกร่ง รายได้รวมหลักล้าน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
