ผลวิจัยใหม่จากญี่ปุ่นชี้ แม้วัคซีน mRNA Pfizer-Moderna ช่วยป้องกันป่วยหนักได้จริง แต่ภูมิคุ้มกันในผู้รับเกือบครึ่งลดลงเร็วใน 9 เดือน เสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้น ชี้ต้องมีกลยุทธ์ฉีดวัคซีนเฉพาะบุคคล
สำนักข่าวเดลิเมล รายงาน ผลการวิเคราะห์ชิ้นใหม่จากนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นชี้ว่า วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อในระยะยาวน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ แม้จะยอมรับว่าวัคซีนดังกล่าวช่วยลดการเสียชีวิตทั่วโลกได้หลายล้านคน แต่ข้อมูลล่าสุดพบว่าผู้ได้รับวัคซีนเกือบครึ่งหนึ่งมีระดับภูมิคุ้มกันลดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 9 เดือนหลังการฉีดเข็มกระตุ้น
แม้ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) จะเคยระบุว่าการฉีดวัคซีนโควิดช่วยป้องกันการเสียชีวิตทั่วโลกได้ถึง 14.4 ล้านคนในปีแรก แต่ผลการวิจัยใหม่จากทีมมหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Science Translational Medicine ได้ชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่ง
นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลระดับแอนติบอดีของประชากรผู้ใหญ่กว่า 2,500 คนในฟุกุชิมะ พบว่าภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนของ Pfizer และ Moderna ลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
ทีมวิจัยได้แบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมออกเป็น 4 ประเภทตามการตอบสนองของภูมิคุ้มกันหลังฉีดเข็มกระตุ้น และพบว่ามี 2 กลุ่มที่น่ากังวล รวมกันแล้วคิดเป็นเกือบ 50% ของผู้เข้าร่วมทั้งหมด คือ
- กลุ่มภูมิคุ้มกันลดลงเร็ว มีภูมิคุ้มกันเริ่มต้นสูง แต่ลดลงอย่างรวดเร็ว (ประมาณ 19%)
- กลุ่มตอบสนองเปราะบาง สร้างแอนติบอดีได้น้อยและลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน (ประมาณ 28%)
เสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้น
ผลการวิจัยพบว่า 2กลุ่มดังกล่าวซึ่งมีภูมิคุ้มกันลดลงอย่างมีนัยสำคัญภายใน 9 เดือน มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 สูงกว่ากลุ่มที่ภูมิคุ้มกันคงที่อยู่ประมาณ 15% โดยภายใน 3 เดือนหลังฉีดเข็มกระตุ้น 1 ใน 5 ของคนในกลุ่มนี้ติดเชื้อโควิด และเพิ่มเป็น 50% ภายใน 6 เดือน ซึ่งสูงกว่ากลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันคงที่อย่างเห็นได้ชัด
ผู้เชี่ยวชาญเรียกผลการค้นพบนี้ว่ามสำคัญ ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนากลยุทธ์การฉีดวัคซีนที่ “มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น” เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพยาวนานขึ้นสำหรับทุกคน ทีมวิจัยญี่ปุ่นเสนอว่า สำหรับกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันลดลงเร็ว อาจจำเป็นต้องมีการฉีด “เข็มกระตุ้นเพิ่มเติม” หรือแม้กระทั่ง “การบำบัดด้วยแอนติบอดี”
นักวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าเหตุใดร่างกายของบางคนจึงมีการตอบสนองต่อวัคซีนที่อ่อนแอกว่าคนอื่น การค้นพบนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการพูดถึงภาวะที่นักวิจัยบางส่วนเรียกว่า “Post-vaccination syndrome” (PVS) ซึ่งมีรายงานว่าเชื่อมโยงกับวัคซีนชนิด mRNA แต่ทีมวิจัยย้ำว่าข้อมูลเกี่ยวกับภาวะดังกล่าวยังเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นและยังไม่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นทางการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทักษิณ” อยู่แดนกักโควิดคืนสอง นอนหลับปกติ สั่งคุมเข้มความปลอดภัย
- ผลพิสูจน์ ‘ฟ้าทะลายโจร’ ไม่ใช่ยาวิเศษรักษาโควิด ไม่ช่วยหายป่วย
- หมอยง เผย โควิด NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลักในไทย ติดต่อง่ายมาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
