ปวิน พาย้อนวันรัฐประหาร ล้มรัฐบาลทักษิณ ชี้ ใช้คนเสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้

sukanlaya s.เผยแพร่: 19 ก.ย. 2568 11:44 น.| อัปเดต: 19 ก.ย. 2568 11:45 น.

139

อ.ปวิน วิเคราะห์เหตุการณ์19 กันยายน พ.ศ. 2549 รัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ

อ.ปวิน ย้อนเหตุการณ์ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 รัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ ชี้ใช้คนเสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ แต่สุดท้ายยอมจำนน ลั่น การเมืองไทยไม่เปลี่ยน ทักษิณสู้แต่สู้ไม่สุด

เกิดอะไรขึ้น? อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการชื่อดัง ออกมาโพสต์ข้อความระบายความในใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทย เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เกิดรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ อ้างใช้มวลชนมาเป็นเกราะแห่งความชอบธรรม และ ใช้คนเสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ ยอมรับว่าทักษิณคือโฉมหน้าของทางเลือกใหม่ทางการเมือง

วานนี้ (18 กันยายน 2568) หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีพินทองทา ชินวัตร ลูกเขยทักษิณ ถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยคนต่อไป เจ้าตัวตอบกลับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า “ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้” ฝั่ง อ.ปวิน ได้โพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ระบุว่า

“วันก่อนลงข่าวคุณหญิงพจมานเดินเข้าพรรคแล้วให้กำลังใจลูกพรรค ซึ่งเป็นอะไรที่พจมานไม่เคยทำมาก่อน วันนี้ โหมโรงเรื่องความเป็นไปได้ที่จะเอาลูกเขยมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมโยงของ “ชินวัตร” กับพรรคเพื่อไทย เอาล่ะ ทั้งหมดอาจเป็นการ “โยนหินถามทาง” แต่ดิชั้นมองว่า แม้แต่ยุทธศาสตร์การโยนหินแบบนี้ก็ผิด คุณกำลังเล่นกับจิตใจของสนับสนุนเพื่อไทยที่อยากให้พรรคไปต่อได้จริงๆ และก็กำลังเล่นกับจิตใจของคนรุ่นใหม่หลายๆ คนที่เบื่อหน่ายการเมืองแบบเครือญาติ หรือที่ดิชั้นชอบใช้คำว่า dynastic politics

…ความพ่ายแพ้ของแพทองธารยังเป็นประจักษ์พยานไม่พอหรอว่า ความไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง ความไม่เป็นประสา ความไม่มีทักษะนักการเมือง (จนถึงกับตกหลุมฮุนเซน) สำคัญกว่านั้น ความที่แพทองธารไม่เคยทำอะไรที่ให้เราเห็นถึงความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย ไม่เคยออกไปชุมนุม ไม่เคยแคมเปญเรื่องสำคัญๆ ไม่เคยพูดเรื่องสิทธิมนุษยชน นี่คือความล้มเหลวของการเอาคนในครอบครัวมาสู่ตำแหน่งทางการเมือง แล้วนี่จะเอาคนในครอบครัวกลับมาอีกแล้วหรอ ลูกเขยทั้งสองคนก็อยู่ในสถานะเดียวกับแพทองธาร ไม่มีประสบการณ์หรือ passion ทางการเมืองทั้งสิ้น ที่เอาขึ้นมาก็เพราะมีสถานะเดียว นั่นคือเป็น “ลูกเขย” แต่ถามว่าวันนี้การเป็นลูกเขยทักษิณมันจะทำให้พรรคไปต่อได้ไหม — ไม่ค่ะ

…บริบทการเมืองไทยมันเปลี่ยนไปแล้ว ลำพังใช้ทักษิณช่วยหาเสียงครั้งที่แล้ว เพื่อไทยก็ยังแพ้พรรคส้ม แล้วxคนรุ่นใหม่พรรคส้มมันก็ไม่เอาไอ้การเมืองแบบเครือญาตินี่อีกแล้ว อันนี้มันบอกเราได้เลยว่า ลูกเขยไม่ใช่สินค้าที่จะขายคนรุ่นใหม่ได้ นอกจากนี้ ถ้าจะเอาลูกเขยมาขายนโยบาย/จุดยืนพรรค ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะวันนี้ เพื่อไทยเลี้ยวขวาไปแล้ว นี่กลายเป็นพังทั้งลูกเขย พังทั้งพรรค ตามการเมืองวันนี้ไม่ทัน คร้านจะทำดีลกับอีลีท ก็สายไปแล้ว เพราะอีลีทมีตัวตายตัวแทนใหม่แล้ว อย่าประเมินค่าอนุทินต่ำนะคะ

…สุดท้าย นี่ทักษิณจะไม่เห็นใจหัวหงอกหัวดำในพรรคเลยหรอ แบกพรรคจนหลังหัก ยอมกลืนจุดยืน ยอมทำงานถวายหัวให้ทักษิณ ต้องนั่งคิดคำคมทั้งวัน (พร้อมถ่ายรูปจำนวนมากเพื่อประกอบคำคมเหล่านั้น) ทั้งจาตุรนต์ ณัฐวุฒิ จักรภพ แต่ที่สุด ทักษิณก็มองข้ามข้าทาสที่ทำงานถวายหัวให้แบบนี้ คงจะจริงที่ว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ทำงานแทบตาย แต่คนได้โบนัสคือผัวลูกสาวเจ้าของบริษัท”