ข่าว

กองทัพบก เตือนชาวกัมพูชา “นี่คือเขตอธิปไตยไทย” บทลงโทษถึงประหาร หากกระทบเอกราช

วันนี้ (19 ก.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” ได้โพสต์ข้อความเตือนชาวกัมพูชาเกี่ยวกับผลทางกฎหมายที่จะตามมา หากมีการก่อความวุ่นวายในเขตอธิปไตยของประเทศไทย โดยระบุข้อความว่า “รู้ไว้เขมร ! นี่คือเขตอธิปไตยไทย หากก่อความวุ่นวายในราชอาณาจักรไทยจนถูกจับกุม”

ทางเพจได้แจกแจงบทลงโทษสำหรับชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมในข้อหาต่างๆ หากมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ดังนี้

เข้าเมืองผิดกฎหมาย: มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ทำลายทรัพย์สินราชการ: เช่น การรื้อถอนลวดหนาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท

ลักทรัพย์สินทางราชการ: เช่น การนำลวดหนามไปเป็นของตน มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 140,000 บาท

ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่: มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท

กระทำการกระทบเอกราชของไทย: ถือเป็นความผิดร้ายแรง มีโทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

กองทัพบก ทันกระแส โพสต์เตือนโทษเป็นภาษาเขมร
กองทัพบก ทันกระแส โพสต์เตือนโทษเป็นภาษาเขมร

โพสต์ดังกล่าวสรุปว่า หากมีการกระทำความผิดในหลายข้อหาประกอบกัน อาจมีโทษจำคุกรวมสูงสุด 16 ปี หรืออาจต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต พร้อมโทษปรับรวมกว่า 300,000 บาท

ย้อนกลับไป วันพุธที่ 17 กันยายน 2568 บริเวณชายแดน บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาจำนวนมากได้เข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนของไทย ปลายจนนำไปสู่การใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อระงับเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากทั้งสองฝ่าย

จุดเริ่มต้น กลุ่มชาวกัมพูชาซึ่งมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และพระสงฆ์ ได้รวมตัวกันเข้ามาประชิดแนวชายแดน ก่อนจะเริ่มลงมือรื้อถอนแนวรั้วลวดหนามหีบเพลงที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้ติดตั้งไว้เพื่อป้องกันพื้นที่อธิปไตย มีการขว้างปาก้อนหิน ท่อนไม้ และยิงหนังสติ๊กเข้าใส่แนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ไทย

พระเขมรแต่งกายคล้ายทหาร
ภาพจาก: เฟซบุ๊ก กองทัพบก ทันกระแส

เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนสากลจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากการแจ้งเตือนด้วยเครื่องขยายเสียง เครื่องส่งคลื่นความถี่สูง (LRAD) แต่ไม่เป็นผล เมื่อถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสลายการรวมตัวและผลักดันให้กลุ่มมวลชนถอยกลับไปยังฝั่งกัมพูชา

ภายหลังเหตุการณ์สงบลง มีรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกก้อนหินและวัตถุอื่น ๆ ขว้างปาใส่ ขณะที่สื่อของกัมพูชารายงานว่ามีชาวบ้านฝั่งตนได้รับบาดเจ็บจากการเข้าสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ไทยเช่นกัน แม้การปะทะจะยุติลง แต่บรรยากาศในพื้นที่ยังคงมีความตึงเครียดสูง

ล่าสุด กองทัพบกและรัฐบาลไทยได้ออกมาชี้แจงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยและเป็นการปฏิบัติตามหลักสากลเพื่อควบคุมฝูงช ขณะที่ นาย เพน โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา และ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงข่าวประเด็นสถานการณ์ตึงเครียด บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว จนพลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงต่อแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีเนื้อหาบิดเบือนความจริงในหลายประเด็น ดังนี้

1. กรณีอ้างว่าชาวกัมพูชาเหล่านี้กำลังออกไปปกป้องที่ดินตามกฎหมายของตนจากการถูกละเมิดโดยฝ่ายไทย

ขอชี้แจงว่าที่ดินบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน อีกทั้งไม่ได้อยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของกัมพูชาแต่อย่างใด ชาวบ้านกัมพูชากลุ่มดังกล่าวได้เจตนารุกล้ำเข้ามาอยู่อาศัยอย่างผิดกฎหมายในเขตดินแดนของประเทศไทยมาเป็นเวลานาน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชารู้เห็นและทราบมาโดยตลอด ซึ่งฝ่ายไทยได้เคยทำการประท้วงหลายครั้งในทุกระดับ แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด

และด้วยจุดเกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่ของประเทศไทยชัดเจน ผู้ปฏิบัติหลักจึงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประจำพื้นที่ มิใช่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนสายตาชาวโลก

2. กรณีกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยิงกระสุนยางและระเบิดควันใส่พลเมืองกัมพูชา และใช้อุปกรณ์เครื่องเสียงทำลายแก้วหูและสมอง

สำหรับกรณีนี้ เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนหลักสากล ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง เมื่อการพูดคุยเจรจาอย่างสันติวิธีไม่ได้ผล ทั้งนี้เพื่อต้องการควบคุมฝูงชนชาวกัมพูชาที่มีลักษณะท่าทีที่ก้าวร้าว แสดงออกทางอารมณ์ที่รุนแรง โดยส่วนใหญ่พกพาท่อนไม้ยาวเพื่อใช้เป็นสิ่งเทียมอาวุธ และมีท่าทีที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย รวมถึงบุกทำลายสิ่งกีดขวางของทางการไทย

3. กรณีขอประณามความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ไทยกระทำต่อประชาชนและพระสงฆ์กัมพูชา โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไทยยุติการละเมิดและความรุนแรงเหล่านี้

สำหรับกรณีนี้ ฝ่ายไทยขอประณามเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาที่มิได้มีท่าทีจริงใจต่อการแก้ปัญหาการชุมนุม และขอประณามผู้ชุมนุมชาวกัมพูชาที่พยายามใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เพื่อป้องกันตนเองและระงับเหตุเฉพาะหน้า

4. กรณีเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงและพยายามแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี โดยยึดหลักสากล ข้อตกลงที่มีต่อกัน และกฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่

ต่อกรณีดังกล่าว ชัดเจนว่าเป็นฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เคารพข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการยั่วสนับสนุนให้มวลชนมารุกล้ำดินแดนไทย และบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อหวังให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของฝ่ายไทย การดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ฝ่ายกัมพูชาเจตนาสร้างขึ้นอย่างเป็นระบบ ด้วยความอดทนอดกลั้น เพื่อพยายามแก้ไขการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรงที่อาจพัฒนานำไปสู่ความขัดแย้งทางอาวุธครั้งใหม่

ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากลโดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอ

ที่สำคัญพบว่าเจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล นอกจากนี้หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูล ทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้าในการรุกล้ำดินแดนไทย และความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิง ย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button