มาลี อ้าง ไทยใช้ความรุนแรง ทำประชาชน-จนท.เขมรบาดเจ็บสาหัสหลายราย

มาลี โสเจียตา แถลงกล่าวอ้าง ไทยละเมิดอธิปไตยร้ายแรง ใช้ความรุนแรงสลายม็อบ ทำประชาชน-จนท.เขมรบาดเจ็บ
จากเหตุการสลายการชุมนุมในพื้นที่ชายแดนจ.สระแก้ว บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง (หลักเขตที่ 42–43) หลังทหารกัมพูชานำชาวบ้านบุกเข้ารื้อลวดหนาม โดยใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์ ตะโกนโห่ร้อง ขว้างปาสิ่งของทั้งก้อนหินและท่อนไม้ ทั้งพูดจายั่วยุใส่เจ้าหน้าที่ไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) จ.สระแก้ว และกองกำลังบูรพาเข้าตรึงกำลังในพื้นที่ ก่อนจะใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่องขยายเสียงความถี่สูง (LRAD) เพื่อผลักดันและควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ความเรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อวาน (17 ก.ย. 68) จนถึงวันนี้
ล่าสุด 18 กันยายน 2568 พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้แถลงการณ์ถึงสถานการณ์การสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ระบุว่า
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา กองกำลังผสมของไทยราว 300 นาย ได้บุกเข้าไปในหมู่บ้านเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย กองกำลังไทยได้ใช้อุปกรณ์เสียงระยะไกลและยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่พลเรือนและเจ้าหน้าที่ชาวกัมพูชา
นอกจากนั้น มาลี ยังกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของไทยว่า ได้ใช้หนังสติ๊กบรรจุลูกปืนยิงเข้าใส่ฝูงชน ซึ่งอ้างว่าส่งผลกระทบต่อแก้วหูและเส้นประสาทสมองอย่างรุนแรง ทำให้มีประชาชนซึ่งรวมถึงพระภิกษุสงฆ์ หมดสติ, บาดเจ็บสาหัส และบาดเจ็บเล็กน้อย รวม 28 คน
กระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาขอย้ำว่า ในการตอบสนองต่อการกระทำดังกล่าวข้างต้นของกองทัพไทย เจ้าของที่ดินชาวกัมพูชา และชาวบ้านในพื้นที่อื่นๆ ล้วนมีแรงจูงใจจากความกังวลอย่างลึกซึ้ง ต่อรั้วลวดหนามของกองทัพไทย ที่ปิดกั้นอธิปไตยของกัมพูชา และความมุ่งมั่นในการปกป้องทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การครอบครองตามกฎหมายของพวกเขามาเป็นเวลาหลายปี
ในเหตุการณ์ดังกล่าว กองกำลังกัมพูชาของเราและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่มีอาวุธและประจำการอยู่ในพื้นที่ ได้เข้าร่วมด้วยเพื่อดูแลความปลอดภัยของพลเมืองกัมพูชา ทั้งกองกำลังและเจ้าหน้าที่ของเรา ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพและความรับผิดชอบสูง พวกเขายึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุร่วมกันอย่างเคร่งครัด และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยสันติและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ
ในเรื่องนี้ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศไทยเคารพเจตนารมณ์ของการหยุดยิง ผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาคกัมพูชา-ไทย (RBC) ซึ่งจัดขึ้นอย่างประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาโดยตลอดนับตั้งแต่การหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 24 ชั่วโมง (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บันทึกการประชุมพิเศษ GBC กัมพูชา-ไทย ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ซึ่งระบุว่าทั้งสองฝ่ายควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจยกระดับความตึงเครียดหรือขยายขอบเขตของข้อพิพาท
นอกจากนี้ ตามเจตนารมณ์ของการประชุมพิเศษว่าด้วยเขตแดนกัมพูชา-ไทย (GBC) ครั้งที่ 1 ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันว่า ประเด็นอื่นๆ ที่เหลืออยู่นอกเหนืออำนาจของหน่วยงานชายแดนและหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ควรนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เพื่อหารือและหาข้อยุติตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยว่าด้วยการสำรวจและกำหนดเขตแดนทางบก (MOU 2000)
ขณะเดียวกัน กัมพูชาขอเรียกร้องให้ไทยหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจเพิ่มความตึงเครียดหรือขยายขอบเขตของข้อพิพาท และพยายามสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติตามการหยุดยิงอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงทั้งหมดที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุในการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) ด้วยความสอดคล้องและหนักแน่น
ในโอกาสนี้ กัมพูชาขอยืนยันพันธสัญญาที่จะร่วมมือกับไทยในทุกระดับ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศและประชาชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คลิปหลักฐานชัด! ยืนยัน “พระกัมพูชา” เปิดฉากปาหินใส่ จนท.ไทยก่อน
- ม็อบเขมรมาอีกแล้ว รวมตัวที่พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยตรึงกำลังเข้ม
- ตร. เผยตำรวจรับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุสลายม็อบเขมร ย้ำทำตามหลักสากล
- ยังไม่จบ! กลุ่มวัยรุ่นเขมร ปาก้อนหิน-ท่อนไม้ ใส่เจ้าหน้าที่ไทย จนบาดเจ็บ
- ด่วน! คฝ.ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง สกัดม็อบเขมร ใช้โล่มนุษย์ รื้อลวดหนาม
อ้างอิงจาก : FB สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ติดตาม The Thaiger บน Google News: