รังสิมันต์ โรม โชว์ฟอร์ม ชี้แจงจนกัมพูชากุมขมับ ที่ประชุม AIPA มีมติตีตกข้อเสนอ

สส.พรรคประชาชน รังสิมันต์ โรม ในฐานะผู้แทนไทย ชี้แจงเหตุผลคัดค้านข้อเสนอเขมร ระบุมีกลไกทวิภาคี GBC อยู่แล้ว จนที่ประชุมมีมติตีตกวาระดังกล่าว
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้โพสต์ข้อความสั้น ๆ ว่า “เยี่ยม” พร้อมแชร์รายงานข่าวจากสำนักข่าว Ch7HD News กรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพระชาชน ในฐานะผู้แทนไทย ได้ทำหน้าที่ประท้วงข้อเสนอของกัมพูชาในเวทีประชุมระดับนานาชาติ จนที่ประชุมมีมติตีตกข้อเสนอดังกล่าว
ในระหว่างการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 46 (AIPA) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ในวาระของคณะกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้บริหารรัฐสภาจาก 10 ชาติสมาชิก สมเด็จ ควร สุดารี ประธานรัฐสภากัมพูชา ได้เสนอวาระเร่งด่วนเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อหารือปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และเรียกร้องให้มีการเปิดด่านพรมแดน
ต่อมา นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะผู้แทนไทย ได้ยกมือขอโต้แย้งทันที โดยไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ไทยจำเป็นต้องคัดค้านข้อเสนอของกัมพูชา โดยสรุปเป็นประเด็นสำคัญได้ดังนี้
1. มีกลไกทวิภาคี (Bilateral) อยู่แล้ว
นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่า ไทยและกัมพูชามีกลไกหารือระดับสูงเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันอยู่แล้ว คือ คณะกรรมการเขตแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกที่ประสบความสำเร็จ การนำข้อพิพาทระดับทวิภาคีเข้าสู่เวทีพหุภาคี (Multilateral) อย่างอาเซียน เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เสี่ยงที่จะทำให้ประเด็นถูกนำไปใช้ทางการเมือง และบั่นทอนความพยายามที่กำลังดำเนินไปด้วยดีอยู่แล้ว
2. มีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว
ไทยยินดีต่อบทบาทของผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งปัจจุบันได้เดินทางถึงพนมเปญและเริ่มปฏิบัติการแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีมติรัฐสภามาซ้ำซ้อน เพราะอาจทำให้มาตรการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างสองประเทศถูกทำให้เป็นการเมืองโดยไม่จำเป็น
3. เงื่อนไข 3 ข้อในการเปิดด่านชายแดน
สำหรับข้อเรียกร้องให้เปิดด่านโดยเร็วที่สุด นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า ไทยมีความกังวลเช่นกัน แต่ปัญหาความมั่นคงเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ โดยรัฐบาลไทยกำหนดเงื่อนไข 3 ประการที่ต้องบรรลุผลก่อนจึงจะเปิดด่านได้ คือ ต้องถอนอาวุธหนักทั้งหมด ออกจากแนวชายแดน, ต้องมีความร่วมมือในการกวาดล้างทุ่นระเบิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และ ต้องมีการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งไทยได้ส่งมอบข้อมูลแหล่งปฏิบัติการของมิจฉาชีพกว่า 50 แห่งในกัมพูชาให้แล้ว และการปิดด่านบางแห่งยังคงเป็นมาตรการที่จำเป็น

ท้ายที่สุด ที่ประชุม AIPA ได้มีมติเห็นด้วยกับเหตุผลของผู้แทนไทย และมีมติตีตกข้อเสนอวาระเร่งด่วนของกัมพูชาไป
มีรายงานว่าระหว่างที่นายรังสิมันต์ชี้แจงเหตุผล สมเด็จ ควร สุดารี ผู้แทนจากกัมพูชา มีท่าทีกังวลและยกมือขึ้นกุมขมับ ขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรประเทศมาเลเซียซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ให้โอกาสผู้แทนไทยอย่างเต็มที่และพยักหน้าตอบรับตลอดการชี้แจง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เพจดัง ตั้ังคำถามเขมรจัดฉาก ตั้งใจยั่วยุไทย อ้างเป็นผู้ถูกกระทำ
- คลิปหลักฐานชัด! ยืนยัน “พระกัมพูชา” เปิดฉากปาหินใส่ จนท.ไทยก่อน
- กัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พาทหารกว่า 50 นาย พกปืนยาว เข้าช่องอานม้า
ติดตาม The Thaiger บน Google News: