อาลัย “หมอพี” นักร้อง-นักบิน เสียชีวิตในวัย 35 ปี หลังต่อสู้โรคมะเร็งอย่างกล้าหาญ

อาลัย “หมอพี” หมอฝีมือดี-นักร้อง-นักบิน เสียชีวิตในวัย 35 ปี หลังต่อสู้โรคมะเร็งลำไส้ระยะ 4 ลามไปตับและปอด อย่างสุดความสามารถ ก่อนจากไปอย่างสงบทั้งที่ยังหนุ่ม
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 โลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์แสดงความอาลัยและสดุดีต่อการจากไปของอีกหนึ่งบุคลากรทางการแพทย์อย่าง หมอพี กัปตันนายแพทย์พีรวัฒน์ แพทย์หนุ่มมากความสามารถที่ต้องเสียชีวิตอย่างกะทันหันทั้งที่เพิ่งอายุเพียง 35 ปีเท่านั้น หลังตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 ลามไปที่ตับและปอด

โพสต์ดังกล่าวเรียบเรียงมาจากใจของ หมอแคน Kittikhun Can Tortainchai ซึ่งเป็นเพื่อนของ หมอพี ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับนายแพทย์ผู้มีความสามารถรอบด้านที่ต้องจากไปด้วยโรคมะเร็งว่า
“สิ่งที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับหมอพี__กัปตันนายแพทย์พีรวัฒน์
– นักเรียนเตรียมอุดมรุ่น 69
– ศิษย์เก่าแพทย์จุฬารุ่น 65
– นักบินสายการบินแอร์เอเชีย
– นักร้องวง chilling romance กับ เพลง ลำดับก่อนหลัง
หมอพีเป็นคนที่มีความสามารถมากมาย และใช้ชีวิตด้วยความเรียบง่ายออกแนวธรรมะธรรมโมด้วยซ้ำ ไม่ได้ใช้ของหรูติดแบรนด์แต่อย่างใด ชีวิตของหมอพีกำลังไปได้สวยมีทั้งหน้าที่การงานที่ดี,ครอบครัวที่ดี, มีเพื่อนและสังคมที่ดี และเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่กี่เดือน
จุดเปลี่ยนสำคัญ
แต่บททดสอบในชีวิตของหมอพีก็คือการที่รู้ว่าตัวเองได้เป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 แพร่ไปตับ ในวัยแค่ 35 ปีเท่านั้นเอง วันนั้นคุณหมอมีอาการกินได้น้อยกินนิดเดียวก็อิ่มก็เลยไปตรวจดูที่โรงพยาบาลตามปกติกินยาลดกรดโรคกระเพาะก็ไม่ดีขึ้น ก็เลยไปตรวจ CT scan ก็ได้พบก้อนในตับเยอะมาก
ซึ่งปกติแล้วมะเร็งลำไส้จะพบในคนที่ครอบครัวมีประวัติเคยเป็นเช่นคุณพ่อคุณแม่คุณปู่คุณย่า หรือมีอาการนำมาก่อนเช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย,ถ่ายเป็นเลือดเบื่ออาหารน้ำหนักลดเป็นต้น
แต่หมอพีไม่ได้มีอาการนำอะไรมาก่อนรวมถึงไม่ได้มีประวัติในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ด้วยแต่ดันไปตรวจเจอโดยบังเอิญ
คุณหมอได้ต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วยการทำคีโมจนครบทุกคอร์สรวมถึงมีแพลนว่าจะผ่าตัดเปลี่ยนตับแล้วแต่โชคไม่เข้าข้าง พอตรวจร่างกายก็พบว่ามะเร็งได้แพร่ไปที่ปอดอีก 1 จุดทำให้ต้องเปลี่ยนการรักษามาเป็นการรักษาแบบประคับประคอง
คนเราเก่งจริงมั๊ยให้ดูตอนเจอปัญหา
วันที่ผมรู้ว่าหมอพีไม่สบายผมรีบโทรไปหาคุณหมอทันทีถามว่ามึงเป็นยังไงบ้างวะบอกพี่ตอบว่า “โรคห่าเนี่ยทำอะไรกูไม่ได้หรอก มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ยอมแพ้หรอก”
วันนั้นผมร้องไห้เลย ร้องไห้เพราะรู้ว่าปลายทางมันจะเป็นยังไงและผมเชื่อว่าหมอพีก็คงรู้ด้วยเช่นกัน แต่หมอพีไม่ได้แสดงความอ่อนแอให้ผมเห็นเลยกลับปลอบใจผมด้วยซ้ำ หรือแม้กระทั่งวันที่ผมได้เสียสุนัขไป 1 ตัวที่เลี้ยงมา 10 ปี คุณหมอโทรมาปลอบใจผมพร้อมกับแนะนำให้อ่านหนังสือคู่มือมนุษย์เพื่อทำให้ใจผมเบาลงทุกคนคิดดูนะครับว่าคุณหมอมีเมตตาและจิตใจแข็งแกร่งแค่ไหน ทั้งที่ร่างกายก็ป่วยหนักแต่ก็มาปลอบคนที่ร่างกายแข็งแรง
ไม่กลัวก็คือไม่กลัว
ผมได้คุยกับคุณแม่ของคุณหมอ, คุณแม่เล่าให้ฟังว่าคุณหมอมักจะชอบมาจับมือคุณแม่แล้วบอกคุณแม่เสมอว่า “แม่ไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวพีจะนำไปก่อนแล้ววันหนึ่งเราคงได้เจอกัน พีรักแม่นะ” รวมถึงได้คุยกับภรรยาของคุณหมอ, ภรรยาคุณหมอเล่าให้ฟังว่า ช่วงสุดท้ายที่คุณหมอเริ่มไม่ไหวคุณหมอพีก็ยังปลอบใจภรรยาด้วยคำว่า “ไม่ต้องร้องไห้ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวอีก 6 เดือนทุกอย่างก็จะเข้าที่เอง ” คือฟังไปก็รู้สึกบีบหัวใจไปด้วย
ภรรยาของคุณหมอเล่าให้ฟังว่าคุณหมอเผชิญหน้ากับความตายได้อย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจโลกมาก คุณหมอเป็นคนเลือกรูปหน้าศพด้วยตัวเองและเป็นคนไปจัดเตรียมของชำร่วยงานศพของตัวเองด้วยตัวเองอย่างพิถีพิถันและมอบหมายให้ภรรยาคุณหมอบอกกับแขกที่มาทุกท่านว่าให้อ่านหนังสือที่ชื่อว่าคู่มือมนุษย์ของพระพุทธทาสภิกขุให้จบ
ผมถามตรง ๆ ว่าคุณหมอพีกลัวตายไหม คุณหมอบอกว่า “ไม่กลัวตายเลยความตายเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องผิดบาปหรือผิดปกติเรากลัวเพราะเราไม่เข้าใจเฉย ๆ เราแค่เห็นว่าความตายเป็นเรื่องผิดปกติและไม่ควรเกิดขึ้นกับเรา แต่ถ้าเราเข้าใจมันแล้วเราจะไม่กลัวเลย”
และนี่ก็เป็นเพียงแค่ 1 เรื่องราวที่น่าเสียใจและประทับใจของคุณหมอให้ได้สอนให้พวกเราเข้าใจชีวิตและเผชิญหน้ากับความตายได้อย่างกล้าหาญ หมอพีได้สู้อย่างเต็มที่ คุณหมอได้ทิ้งท้ายว่าทุกคนอย่าลืมไปตรวจสุขภาพกันนะอย่าใช้ชีวิตด้วยความประมาทคิดว่าโรคนี้คงไม่เกิดกับเราหรอกหรือความตายกว่าจะมาถึงเราอีกนาน
สุดท้าย
อีกหนึ่งสิ่งที่เรื่องราวคุณหมอสอนเราคือ ถ้าสิ่งไหนใช้เงินแก็ปัญหาได้…สิ่งนั้นคือเรื่องเล็กเรื่องขี้หมา…แต่ถ้าสิ่งไหนใช้เงินแก็ปัญหาไม่ได้….สิ่งนั้นคือ…ของจริงแล้วนะ
มาถึงตรงนี้แล้วผมขอให้ทุกคนจดจำหมอพีในฐานะบุคคลที่มากด้วยความสามารถ และเป็นผู้เดินทางกลับด้วยชัยชนะของชีวิต แล้วถ้าใครอยากฟังเสียงของหมอพีก็ให้ไป search เพลงลำดับก่อนหลังใน YouTube ฟังได้เลยครับ หนังสือคูมือมนุษย์ สามารถดาวน์โหลดได้เลยครับ
ปล. ภรรยาคุณหมอฝากหนังสือคู่มือมนุษย์ให้ทุกท่านครับ
https://drive.google.com/file/d/1DzJwvzTLgCDNA2RBmDLUoWorPjmCZJoZ/view
รักและคิดถึงเสมอนะ”
อ้างอิงจาก : FB Kittikhun Can Tortainchai
ติดตาม The Thaiger บน Google News: