ดราม่าคลิป งานแต่งหนุ่มจีน-สาวผิวสี เจ้าบ่าวทาหน้าดำ ร่วมพิธี ชาวเน็ตถกสนั่น ทำเพื่อเลียนแบบภรรยา หรืออย่างอื่นกันแน่
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังคลิปวิดีโอ TikTok งานแต่งงานคู่หนึ่งถูกเผยแพร่ คลิปดังกล่าวเป็นงานแต่งระหว่างเจ้าบ่าวชาวจีนและเจ้าสาวผิวสี แต่ประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงคือ เจ้าบ่าวชาวจีนได้ทาหน้าของตนเองจนมีสีเข้ม
เจ้าของช่องยูทูปที่มีชื่อว่า Black Girl In China วิจารณ์คลิปนี้ คาดเดาถึงแรงจูงใจของเจ้าบ่าวว่าอาจมี 2 สาเหตุ คือ 1. อาจเป็นประเพณีทางวัฒนธรรมเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย หรือ 2. เป็นการพยายามทำให้สีผิวของตนเองเหมือนกับภรรยา
เจ้าของช่องเชื่อว่า หากเจ้าบ่าวทำเพื่อเลียนแบบสีผิวภรรยา ถือเป็นเรื่องไม่ดีและอาจจะเป็นการการเหยียดผิว ถึงแม้จะตั้งใจดี แต่ก็เป็นการไม่ให้เกียรติภรรยาอยู่ดี
เจ้าของช่องดังกล่าวได้เล่าปฏิกิริยาของเจ้าสาว โดยสังเกตว่าเจ้าสาวดูเศร้าและสับสน มากกว่ามีความสุข ไม่ได้ยิ้มอย่างจริงใจ และดูโดดเดี่ยวเนื่องจากเป็นคนผิวสีเพียงคนเดียวในงาน และเจ้าสาวดูเหมือนจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ถูกต้อง แต่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ในขณะนั้น
คลิปนี้จุดประเด็นเรื่องความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม เจ้าของช่องเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้เกียรติวัฒนธรรมอื่น โดยเฉพาะเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของคนผิวสี ขณะที่มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นว่า “เอาจริง ๆ นี่มันไร้สาระมาก น่าอับอายขายหน้าที่สุด เธอควรจะยกเลิกงานแต่งงานไปซะ เธอสวยมาก เธอหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ได้”
ขณะที่ชาวเน็ตอีกคนแสดงความคิดเห็นตรงกันข้ามว่า “เขาทำแบบนั้นเพื่อพยายามทำให้ดูกลมกลืนกับเธอ อย่าทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องการเหยียดเชื้อชาติไปหมด เขาไม่ใช่คนอเมริกันหรือคนยุโรป ดังนั้นเขาอาจจะไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องที่น่าโกรธเคืองอะไร”
เจ้าของช่องมองว่าชาวจีนบางคนอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมในการทาหน้าสีดำตามคนผิวสี เนื่องจากในประเทศจีนมีการจำกัดการเข้าถึงโซเชียลมีเดียระหว่างประเทศ อาจไม่เข้าใจถึงการให้ความสำคัญกับอัตลักษณ์ของบุคคลที่มีความแตกต่างกัน
ที่มา: Black Girl In China
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สามีโหด! บังคับ “เจ้าสาวป้ายแดง” มีเซ็กซ์ คลั่งหนักแม้ตอนแท้งลูก ก่อนรัดคอดับคาบ้าน
- แม่เล่นใหญ่ โทรบอกเครื่องบินบังกลาเทศมีระเบิด ขัดขวางไม่ให้ลูกบินไปแต่งงาน
- หญิงชาวจีน เหยื่อสามีโหด ผลักตกผาแต้ม แจ้งข่าวดี คลอดลูกแล้ว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
