จำแทบไม่ได้ ราชินีชุดชั้นใน สลัดภาพเซ็กซี่เป็นคนละคน หลังผ่านมรสุมชีวิต

เปิดภาพปัจจุบัน ‘หง็อก ตรินห์’ เจ้าของฉายาราชินีชุดชั้นในเวียดนาม พลิกลุคเป็นสาวหวาน เปลี่ยนเป็นคนละคน หลังผ่านมรสุมใหญ่ในชีวิต
ขยี้ตารัว ๆ ภาพล่าสุด ‘หง็อก ตรินห์’ (Ngoc Trinh) ซูเปอร์สตาร์สาวชาวเวียดนาม ผู้ครองบัลลังก์ฉายา ‘ราชินีชุดชั้นใน’ มานานกว่าทศวรรษ ปรากฏตัวในลุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอึ้ง ทำเอาหลายคนแทบจำไม่ได้ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีในวงการบันเทิง ภาพจำของเธอคือความกล้าและความเซ็กซี่ อีกทั้งยังเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นสุดหวิว ทั้งชุดบิกินี, ชุดราตรีซีทรู จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การพลิกลุคในครั้งนี้หลาย ๆ คนวิเคราะห์ว่าอาจเกิดขึ้นหลังจากที่ หง็อก ตรินห์ เผชิญกับมรสุมคดีความครั้งใหญ่ในปี 2023 โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธออย่างมาก
เซตภาพล่าสุดที่มีการเผยแพร่ออกมาเสมือนการรีแบรนด์ครั้งสำคัญ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ฉายาราชินีชุดชั้นใน แต่ยังสามารถเป็นนางแบบในลุคที่อ่อนหวานและสง่างามได้เช่นกัน เจ้าตัวเลือกที่จะกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง โดยลดการสร้างกระแสหรือการให้สัมภาษณ์ที่ล่อแหลม และเริ่มต้นด้วยการรับบทสมทบในภาพยนตร์ ปัจจุบันชีวิตของเธอเริ่มกลับมาคงที่อีกครั้ง กลับมารับงานอีเวนต์, ไลฟ์สดขายของ และยังคงรักษาความนิยมในหมู่แฟน ๆ ไว้ได้

สำหรับลุคในปัจจุบันถือว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับภาพลักษณ์ในอดีตของเธอที่เคยเป็นปัญหา ทั้งความโดดเด่นเรื่องการแต่งตัว และการให้สัมภาษณ์ที่ตรงไปตรงมาจนมักจะจุดประเด็นดราม่าอยู่เสมอ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันมั่นใจในร่างกายของฉันมาก ฉันดูหุ่นของนางแบบคนอื่น ๆ แล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะเพอร์เฟกต์ไร้ที่ติเหมือนฉัน ฉันคิดว่าฉันมีบั้นท้ายที่สวยธรรมชาติหนึ่งเดียวในวงการ ไม่มีใครเป็นที่สองรองจากฉันได้”
รวมทั้งทัศนคติและมุมมองต่อผู้หญิง เธอเคยกล่าวว่า “ผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดคือสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่ฉลาดก็ไม่เป็นไร ฉันชอบผู้หญิงที่สวยและว่าง่าย ฉันก็หวังว่าฉันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป เก่งหรือไม่เก่ง สำหรับฉันไม่สำคัญเลย”





ข้อมูลจาก : soha
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดารา AV ทุ่มเงิน 7 หมื่นหาหนุ่มรู้ใจ เช็กเงื่อนไขสุดพีก หนุ่ม ๆ ถูกปัดตก
- ดราม่าเดือด ไอดอลสาวใส่ชั้นใน-โชว์อกเด่น เที่ยวเมืองเก่า ทัวร์ลงยับแฟชั่นหรือโป๊?
- คดีพลิก สาวใส่ชั้นในเที่ยวสวนสนุก ทัวร์ลงยับทำลายสายตาเด็ก ลั่นคำเดียวมีเงิบ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: