สรุปม้วนเดียวจบ ย้อนคดีดัง “พระอาจารย์คึกฤทธิ์” เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ถูกฟ้องโกง 515 ล้าน สุดท้ายพ้นมลทิน

สรุปคดี 515 ล้าน วัดนาป่าพง หลังอดีตศิษย์ยื่นฟ้อง พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ก่อนจบลงด้วยการ ถอนฟ้อง และ ขอขมา ยอมรับเป็นเรื่องเข้าใจผิด
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2560 ได้เกิดคดีฟ้องร้องครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการพุทธศาสนา เมื่ออดีตศิษย์วัดนาป่าพง ได้ยื่นฟ้อง พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ผู้เผยแผ่แนวทาง พุทธวจน พร้อมพวกรวม 3 คน ต่อศาลจังหวัดธัญบุรี
ข้อกล่าวหาฉ้อโกงเงิน 515 ล้านบาท
สื่อมวลชนหลายสำนักในตอนนั้น รายงานว่า โจทก์ (อดีตศิษย์) ได้ยื่นฟ้องในเดือนเมษายน 2560 โดยกล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์และพวกได้ฉ้อโกงเงินบริจาคจากญาติโยมเป็นจำนวนเงินกว่า 515 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ประชาชนบริจาคเพื่อใช้ในการจัดพิมพ์หนังสือ พุทธวจน และจัดซื้อที่ดินบริเวณข้างวัดนาป่าพง
ฝ่ายโจทก์อ้างว่า เงินบริจาคที่ได้รับผ่านหลายธนาคาร ถูกโอนต่อไปยังบัญชีของพระผู้ช่วยของพระคึกฤทธิ์ และกล่าวอ้างว่าไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเงินถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ญาติโยมตั้งใจไว้
จุดสิ้นสุดคดี การถอนฟ้องและขอขมา
คดีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการของศาล โดยศาลจังหวัดธัญบุรีได้รับฟ้องคดีไว้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 และพระคึกฤทธิ์ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
กระทั่งเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2562 เรื่องราวทั้งหมดได้ถึงจุดยุติ เมื่ออดีตศิษย์ซึ่งเป็นโจทก์ในคดี ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดธัญบุรี และยื่นคำร้องขอ ถอนฟ้อง พระคึกฤทธิ์และพวกในทุกคดี พร้อมทั้งได้ทำการ ขอขมากรรม ในศาล
ฝ่ายโจทก์ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการว่า ความผิดทั้งหมดเกิดจาก ความเข้าใจผิด ของตนเอง และยืนยันว่าจำเลยทั้งสามมิได้กระทำความผิดตามคำฟ้องแต่อย่างใด ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องคดีทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้ ส่งผลให้พระคึกฤทธิ์พ้นจากข้อกล่าวหาฉ้อโกงในคดีนี้โดยสมบูรณ์
เจาะปม พระอาจารย์คึกฤทธิ์ กับข้อถกเถียงศีล 150 ข้อ ปะทะ 227 ข้อ
หนึ่งในประเด็นข้อถกเถียงทางพระวินัยที่สำคัญที่สุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง คือกรณีการสวด “ศีลปาฏิโมกข์” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ถูกพูดถึงมาอย่างยาวนาน โดยมีรายละเอียดและข้อโต้แย้งจากฝ่ายต่าง ๆ ดังนี้
ข้อกล่าวหาจากกลุ่มอดีตศิษย์
กลุ่มอดีตศิษย์และผู้ติดตามได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า พระอาจารย์คึกฤทธิ์ได้ทำการ “ตัด” ศีลปาฏิโมกข์ของพระสงฆ์ จากมาตรฐานของคณะสงฆ์ไทยที่ยึดถือ 227 ข้อ ให้เหลือเพียง 150 ข้อ นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวหาประเด็นการเทศนาที่อาจเข้าข่าย “อวดอุตริธรรม” เช่น การระบุว่าหากฟังธรรมพุทธวจนของท่านก่อนตายเพียง 5-10 นาที จะได้เป็นอริยบุคคล
คำชี้แจงจากฝ่ายพระอาจารย์คึกฤทธิ์
ต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว พระอาจารย์คึกฤทธิ์ได้ชี้แจงว่า ทางวัด “ไม่เคยตัดศีลเหลือ 150 ข้อ” แต่เป็นการยืนยันว่า ศีลปาฏิโมกข์ 150 ข้อ คือส่วนที่เป็นพระบัญญัติหลักที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ
ส่วนศีลอีก 77 ข้อที่เพิ่มเข้ามานั้น ท่านอธิบายว่าเป็นหมวด “อภิสมาจาริกสิกขา” หรือข้อมารยาทของสงฆ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไป แต่มีนิยามแตกต่างจากศีลปาฏิโมกข์หลัก ไม่ใช่การรวมเป็น 227 ข้อในความหมายเดียวกับที่มหาเถรสมาคมยึดถือ
มติและการดำเนินการของมหาเถรสมาคม
เมื่อเรื่องนี้ถูกร้องเรียนไปยังมหาเถรสมาคม (มส.) คณะสงฆ์ผู้มีอำนาจได้พิจารณาและเห็นว่า กรณีดังกล่าวอาจเกิดจาก “ความเข้าใจไม่ตรงกัน”
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมหาเถรสมาคมได้มีมติยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ศีลปาฏิโมกข์ตามพระวินัยปิฎกมี 227 ข้อ ตามที่ปรากฏหลักฐานในพระวินัยปิฎกทั้ง 8 เล่ม
มส. ไม่ได้ดำเนินการเอาผิดพระคึกฤทธิ์โดยตรงในกรณีนี้ เพราะเห็นว่าท่านไม่มีเจตนาบิดเบือน แต่ได้มีประกาศเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2557 ระบุว่า พระอาจารย์คึกฤทธิ์ “ได้แสดงความยอมรับคำแนะนำ” จากเจ้าคณะอำเภอลำลูกกาและเจ้าคณะตำบล เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและความเรียบร้อยของคณะสงฆ์ไทยต่อไป
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก พุทธวจนสถาบัน ศูนย์เผยแผ่ส่วนกลาง ได้โพสต์ว่า
“วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 ขอเชิญรับฟังการแถลงข่าวจากวัดนาป่าพง เวลา 15.00 น. ณ ศาลาอเนกประสงค์ ถ่ายทอดสดทาง facebook และ Youtube ช่องพุทธวจนเรียล”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พระคึกฤทธิ์ ปฏิบัติกิจสงฆ์ตามปกติ ก่อนถึงเวลาแถลงข่าวปมฟอกเงินกับ ‘สีกาเยอรมนี’
- ประวัติ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง เสียงธรรมแห่ง พุทธวจน
- ชาวพุทธช็อก หลวงพ่อเมือง เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมา ลาสิกขา แห่อาลัยประวัติอดีตพระผู้ใหญ่
อ้างอิง : FB/พุทธวจนสถาบัน ศูนย์เผยแผ่ส่วนกลาง
รายการพุทธวนเรียล
ติดตาม The Thaiger บน Google News: