ผบ.ตร. สั่งเจ้าหน้าที่เร่งปลดล็อกบัญชีบริสุทธิ์ในครึ่งวัน เริ่มวันนี้วันแรก

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สั่งเจ้าหน้าที่เร่งปลดล็อกบัญชีบริสุทธิ์ในครึ่งวัน หลังประชาชนยื่นยืนยันตัวตน ย้ำไม่ใช่การผลักภาระให้ประชาชน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เรียกประชุมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน กรณีมีประชาชนได้รับผลกระทบ จากการอายัดบัญชีหรือระงับธุรกรรมทางการเงิน ที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนในวงกว้างนั้น
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นให้ใช้คำว่าระงับบัญชีเฉพาะก้อนเงินที่พบความเกี่ยวข้องกับบัญชีผู้กระทำผิด ไม่ใช่การอายัดทั้งบัญชี แต่เป็นการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะให้ผู้บริสุทธิ์ยืนยันหรือแสดงตัวใน 4 ประการ
1.ชื่อนามสกุล 2.เลขบัตรประชาชน 3.เลขบัญชีธนาคาร และ 4.ธนาคารที่เจ้าของบัญชีใช้ หากยืนยันและตรวจสอบพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง ก็จะปลดล็อกให้ภายในครึ่งวัน โดยจะเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ขั้นตอนผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม สามารถแจ้งเหตุในพื้นที่นั้นๆ ได้ทันที ซึ่งไม่ใช่การผลักภาระให้ประชาชน เป็นเพียงแค่การยืนยันตัวตน เพื่อความบริสุทธิ์กับทุกฝ่าย
โดยกระบวนการทั้งหมดพนักงานสอบสวน จะเร่งรัดประสานกับศูนย์ PCT ก่อนรวบรวมส่งไปให้ทาง AOC ที่เป็นศูนย์ใหญ่จัดการกับเรื่องนี้ โดยยึดการบริหารงานที่ตำรวจเคยมีประสบการณ์ในคดีใหญ่ๆ มาแล้ว กระบวนการทั้งหมดจะต้องรวดเร็วที่สุด และมาตรการนี้สามารถลดภาระให้กับ AOC ที่คู่สายปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อการรองรับกับผู้เสียหาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำชับไปที่ 191 และ 1559 ให้ช่วยรองรับในการแก้ปัญหาให้กับผู้เสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้
กระบวนการนี้ ยอมรับว่ามีการเรียกร้องจากพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ ในเรื่องของภาระสำนวนที่มากขึ้น เรื่องดังกล่าวเป็นการบริหารภายในองค์กร ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องเร่งแก้ปัญหา โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนที่ต้องพบกับอาชญากรรมรูปแบบที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการบริหารจะต้องเปลี่ยนตามหรือเพิ่มจำนวนพนักงานสอบสวนให้มากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ส่วนที่มีกระแสสังคมเรียกร้องว่ากระบวนการดังกล่าว จะทำให้มิจฉาชีพใช้โอกาสนี้ในการฟอกตัว หรือสร้างปัญหาให้กับประชาชนในหลายรูปแบบนั้น ตำรวจจะนำมาตรการเหล่านี้เข้ามาควบคุม เพื่อปิดกั้นไม่ให้เกิดช่องว่างสำหรับมิจฉาชีพ ซึ่งจากการคัดกรอง 2 วันที่ผ่านมา พบว่ามีการแจ้งความประมาณ 1,300 คู่สาย ตรวจสอบยืนยันความบริสุทธิ์ได้ 300 สาย ยืนยันไม่ได้ 1,000 สาย และจัดการปลดล็อกแล้ว 30 ราย
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าตำรวจเรียกรับผลประโยชน์ในการปลดล็อคบัญชีกับผู้เสียหาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า หากมีหลักฐานให้ส่งข้อมูลมาให้ แล้วจะตรวจสอบว่าการเสียเงินนั้นเป็นไปตามกฎหมายหรือตามข้อบังคับหรือไม่ แต่หากไม่มีกฎหมายรองรับก็จะดำเนินการอย่างไม่ละเว้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผบ.ตร. เรียกประชุมด่วนปมอายัดบัญชี สั่งวางกรอบดำเนินการทันทีในวันนี้
- บุกห้ามยาย โอนเงินให้มิจฉาชีพ ไม่เชื่อ นึกว่าตำรวจปลอม สุดท้ายสูญ 5 ล้าน
- โซเชียลร้อง บัญชีแม่ยายถูกอายัด ยอดเงินติดลบ 7 หมื่น ทั้งที่นานๆใช้
ติดตาม The Thaiger บน Google News: