ข่าวใจฟูรับหวยออกงวดนี้ ก่อนหวยรัฐบาลไทยจะออกรางวัล 16 กันยายน 2568 บ่ายนี้ ที่ออสเตรเลีย มีข่าวคู่สามีภรรยาในเมลเบิร์น ถูกรางวัลใหญ่พาวเวอร์บอล470 ล้าน ทิ้งลอตเตอรี่ไว้บนตู้เย็นเป็นอาทิตย์ ยุ่งจนลืมตรวจ โชคดีไม่ลืมใส่กระเป๋าไปกับเครื่องซักผ้า
คู่สามีภรรยาสูงวัยคู่หนึ่งในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย กลายเป็นเศรษฐีใหม่ในชั่วข้ามคืน หลังจากถูกรางวัลลอตเตอรี่แจ็กพอตมูลค่าประมาณ 470 ล้านบาท แต่เรื่องราวสุดทึ่งคือ พวกเขาไม่รู้ตัวเลยเป็นเวลาหลายวัน ปล่อยสลากที่ถูกรางวัลแปะทิ้งไว้บนตู้เย็น
การออกรางวัลพาวเวอร์บอลเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา มีเงินรางวัลรวมกว่า 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มีผู้ถูกรางวัลที่หนึ่งจำนวน 4 ราย โดยคู่สามีภรรยาจากย่านไบรตัน เมืองเมลเบิร์น เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้รับส่วนแบ่งเงินรางวัลไป
ในตอนแรก บริษัท The Lott ซึ่งเป็นผู้จัดการออกรางวัล ไม่สามารถติดต่อผู้โชคดีคู่นี้ได้ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก ทำให้บริษัทต้องรอให้ผู้ชนะรางวัลติดต่อกลับมาเอง โชคดีที่ทั้งคู่สังเกตเห็นสลากดังกล่าวที่แปะอยู่บนตู้เย็น ตัดสินใจนำมาตรวจรางวัล ก่อนจะพบว่ามันคือสลากที่เปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล
“มันบ้ามาก! ฉันช็อกไปเลย” ภรรยาให้สัมภาษณ์กับ The Lott “เหลือเชื่อจริงๆ เราไม่รู้เรื่องเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา สลากใบนี้มันก็นั่งแปะอยู่บนตู้เย็นของเรานั่นแหละ”
เธอสารภาพว่าทั้งเธอและสามียุ่งกันมากจริงๆ ในช่วงที่ผ่านมา จนลืมสนิทว่าต้องตรวจรางวัลพาวเวอร์บอล ท่ามกลางความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน
คุณยาย เผยที่มาเลขเด็ดงวดนี้ว่า ตัวเลขที่ทำให้พวกเขาโชคดีนั้นมาจากการสุ่มเลือก (QuickPick) แต่กลับมีเลขนำโชคและวันเกิดของคนในครอบครัวรวมอยู่ด้วยโดยบังเอิญ “มันถูกกำหนดมาแล้วจริงๆ”
สำหรับเงินรางวัลที่ได้รับ คู่สามีภรรยาซึ่งทำงานหนักมาตลอดชีวิตวางแผนที่จะแบ่งเงินส่วนใหญ่ให้กับลูกๆ และหลานๆ ส่วนรางวัลสำหรับตัวเองนั้น พวกเขาวางแผนจะซื้อบ้านหลังเล็กๆ สักหลัง
“เราซื้อลอตเตอรี่มาหลายปีแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นจริง” ภรรยากล่าว “โอ้พระเจ้า ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำงานต่อหรือจะเกษียณดี วันนี้แผนชีวิตของฉันเปลี่ยนไปหมดแล้ว คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำใจเชื่อได้”
สำหรับสลากที่ถูกรางวัลนั้น ถูกซื้อจากร้านค้าแห่งหนึ่งในย่านอีสต์ไบรตัน โดยมีหมายเลขที่ออกรางวัลคือ 9, 22, 23, 3, 13, 28 และ 32 ส่วนหมายเลขพาวเวอร์บอลคือ 5
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
