สยองญี่ปุ่น แม่-ลูกสาว 5 ขวบ โดนแทงไส้ทะลัก กลางห้องนั่งเล่น คาดมือแทงยิ่งสลด

สลด แม่ลูกถูกแทงในบ้านที่โอซาก้า ลูกสาว 5 ขวบเสียชีวิต แม่โคม่า
โอซาก้า, ญี่ปุ่น – เกิดเหตุสะเทือนใจขึ้นที่บ้านพักแห่งหนึ่งในเมืองอิเคดะ จังหวัดโอซาก้า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบแม่กับลูกสาววัย 5 ขวบนอนจมกองเลือด แม่สภาพน่ากลัว ไส้ทะลัก
ตำรวจและหน่วยดับเพลิงได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 18:20 น. จากญาติที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งโทรศัพท์แจ้งว่า “แม่ล้มลงและแทงท้องตัวเอง ส่วนลูกสาวก็ถูกแทงที่ท้องด้วย”
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักในย่านที่อยู่อาศัย ห่างจากสนามบินโอซาก้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 600 เมตร ได้พบร่างของแม่วัย 34 ปี และลูกสาววัย 5 ขวบ นอนหมดสติอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นชั้นหนึ่ง ทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีในสภาพไม่รู้สึกตัว
ตำรวจเปิดเผยว่า ลูกสาวได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้เป็นแม่ยังคงหมดสติ อาการอยู่ในขั้นวิกฤต จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าทั้งคู่มีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมแทงบริเวณหน้าท้อง พบมีดเปื้อนเลือดตกอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่น
จากสถานการณ์ในที่เกิดเหตุ ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเหตุฆาตกรรมแล้วพยายามฆ่าตัวตายตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนเพื่อหาสาเหตุและลำดับเหตุการณ์ที่แท้จริงต่อไป
ที่มา: nhk.or.jp
ทั้งนี้ จากข้อมูลจากกรมตำรวจญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฆาตกรรมต่ำที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับประชากร ตัวเลขล่าสุดในปี 2018 อัตราฆาตกรรมอยู่ที่ประมาณ 0.26 รายต่อประชากร 100,000 คน ในส่วนของการใช้อาวุธปืน สถิติแสดงว่า ญี่ปุ่นมีกรณียิงผู้คนที่น้อยมากๆ ตัวอย่างเช่น ในปี 2021 มีกรณีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับปืนเพียง 10 คดี ทั่วประเทศ ที่ประชากรกว่า 125 ล้านคน
สำหรับคดีแทงด้วยมีด แม้จะไม่มีตัวเลขเฉพาะเจาะจงเป็นรายปีที่แยกออกมาชัดเจนว่าเป็น “แทง” เท่านั้น แต่มีเหตุสลดใหญ่ที่เป็นข่าวสะเทือนขวัญทั่วโลก เช่น เหตุการณ์ Sagamihara stabbings ในปี 2016 ที่คนร้ายใช้มีดเข้าทำร้ายผู้พิการ เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บหลายสิบคน
ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 9 กรกฎาคม 2009 นายซาโตชิ อูเอมัตสึ วัย 26 ปี ซึ่งเป็นอดีตพนักงาน ได้ใช้ค้อนทุบกระจกบุกเข้าไปในศูนย์ดูแลผู้พิการ “สุคูอิยามามูริเอ็ง” เมื่อเข้าไปข้างใน เขาได้จับเจ้าหน้าที่มัดไว้ ขโมยกุญแจ แล้วเริ่มเดินเข้าไปในห้องพักต่างๆ เพื่อไล่แทงผู้พิการที่กำลังนอนหลับ โดยพุ่งเป้าโจมตีบริเวณลำคอ ระหว่างนั้น ในเวลาประมาณ 02:30 น. เจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ
หลังจากก่อเหตุ นายอูเอมัตสึได้หลบหนีออกจากศูนย์ในเวลาประมาณ 02:50 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาไม่นานก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุในเวลา 03:00 น. เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ได้พบกับภาพความสูญเสียอันน่าสลด ระดมรถพยาบาล 29 คันเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในทันที
2 ชั่วโมงหลังจากหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ นายอูเอมัตสึได้ขับรถไปยังสถานีตำรวจสึคูอิ เข้ามอบตัวพร้อมถุงบรรจุมีดทำครัวและอาวุธปลายแหลมเปื้อนเลือดจำนวนมากที่ใช้ในการก่อเหตุ สรุปยอดผู้เสียชีวิต 19 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 26 คน
หรือกรณี Akihabara massacre (2008) ที่มีการขับรถไล่ชนและแทงคนกลางถนน เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย
ในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2008 ซึ่งเป็นวันที่ย่านการค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและวัฒนธรรมสมัยนิยมอย่างอากิฮาบาระเต็มไปด้วยผู้คน นายโทโมฮิโระ คาโตะ วัย 25 ปี ได้ขับรถบรรทุกสองตันที่เช่ามา มุ่งหน้าสู่ใจกลางย่านที่กำลังเป็นถนนคนเดิน เขาได้โพสต์ข้อความสุดท้ายลงบนโลกออนไลน์ว่า “ถึงเวลาแล้ว” ก่อนจะเริ่มก่อเหตุสะเทือนขวัญ
เมื่อเวลาประมาณ 12:33 น. คาโตะได้ขับรถบรรทุกฝ่าสัญญาณไฟแดงพุ่งเข้าชนฝูงชนบริเวณสี่แยกใหญ่อย่างรุนแรง ส่งผลให้มีผู้คนล้มลงทันที 5 ราย จากนั้นเขาก็จอดรถลงมาพร้อมกับมีดพกในมือ ไล่แทงผู้คนที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้คนที่กำลังสับสนกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เลือกหน้า ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและโกลาหล
การโจมตีอันโหดร้ายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าถึงที่เกิดเหตุและเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยคาโตะได้ทิ้งมีดลงเมื่อตำรวจชี้ปืนมาที่เขาและยอมให้จับกุมแต่โดยดี โศกนาฏกรรมครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันทีและเสียชีวิตในเวลาต่อมาทั้งหมด 7 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 10 คน เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกและกลายเป็นบาดแผลครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์สังคมญี่ปุ่น
ติดตาม The Thaiger บน Google News: